เมื่อ งาน TTF 2024 หรือ งาน Thailand Tourism Forum 2024 การประชุมสัมมนาการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งมีผู้นำธุรกิจด้านการบริการ ข้อมูล เทคโนโลยี โรงแรม และร้านอาหาร มากกว่า 1,000 คน ได้บ่งชี้ ว่า ไทยจะขึ้นแท่นจุดหมายปลายทาง ‘ไลฟ์สไตล์’ ระดับโลก โดยมี AI เข้ามาช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งข้อมูลที่สะท้อนทำให้เห็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 ได้ดียิ่งขึ้น

ตัวขับเคลื่อนสำคัญสู่ความสำเร็จ

ถ้าย้อนดูภาพรวมของประเทศไทยปลายปี 2023 อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมอยู่ที่ 95% ของปี 2019 แต่ผลประกอบการดีกว่าปีนั้นมาก เนื่องจากราคาห้องพักเฉลี่ย (ADR) สูงกว่าปี 2019 ถึง 25% รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้กำไรดีขึ้น แต่ต้นทุนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน  โดยเฉพาะค่าแรง กดดันการควบคุมต้นทุนในปี 2024  ขณะที่การเติบโตของ ADR จะชะลอลงและทรงตัว

ขณะที่ โรงแรมระดับกลางและประหยัดมีอัตราการเข้าพักสูงกว่าปี 2019 แต่การเติบโตของราคาห้องพักค่อนข้างช้า  ส่วนโรงแรมระดับอื่น ๆ ตามหลังโรงแรมระดับหรูหราและ Upper Upscale ในแง่ของการแซงระดับปี 2019  แต่ช่วงปลายปี 2023 ก็ตามทัน  ทำให้ภาพรวมการฟื้นตัวค่อนข้างสมดุลในปี 2024

ซึ่ง CoStar ผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย คาดการณ์ว่า ดีมานด์และอัตราการเข้าพักในกรุงเทพฯ จะยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดในอดีตอีกสักระยะ แต่ RevPAR ยังเป็นบวก เนื่องจากราคาห้องพักสูง โดยคาดว่าจะสูงกว่าปี 2019 ถึง 18% ตลอดปี 2024 ซึ่งตัวเลขการจองล่วงหน้าของโรงแรมในไตรมาสแรกของปี 2024 คล้ายคลึงกับปี 2023 โดยตลาดหลักที่เติบโตเร็วกว่าปีที่แล้วคือ พัทยาและรีสอร์ตชายฝั่งทะเลใต้

ดังนั้นประเด็นที่ผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวไทยต่างให้ความสำคัญ คือทิศทางการเติบโตของการท่องเที่ยวไทยในปี 2567ได้ชี้ว่า ประเทศไทยถูกกำหนดตำแหน่งในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิง “ไลฟ์สไตล์” ชั้นนำของโลก ในขณะที่ AI จะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ

คนมีความสำคัญต่อธุรกิจบริการ

โดย นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส ผู้ก่อตั้ง TTF กล่าวว่า AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจบริการ การท่องเที่ยว และโรงแรมทุกแห่ง ไม่ว่าพวกเขาจะตระหนักหรือไม่ก็ตาม  และ สำหรับธุรกิจบริการนั้น ทรัพยากรมนุษย์ยังคงมีความสำคัญอันดับแรก เพราะเป็นเสน่ห์ของธุรกิจอย่างแท้จริง แต่ AI จะช่วยให้พนักงานและการบริการสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

ส่วน นายอดิทิพ ภาณุพงศ์ หัวหน้าอุตสาหกรรมฝ่ายพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ กูเกิ้ล (ประเทศไทย) กล่าวต่อว่า ด้วยนักเดินทางใช้เวลาในการวางแผนมากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ จึงสามารถใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อทำให้การเดินทางของพวกเขาง่ายขึ้น และทำให้ประสบการณ์ของพวกเขาเป็นส่วนตัวและราบรื่นมากขึ้นกว่าที่เคย จากเรื่องราวการท่องเที่ยวของไทยที่ยาวนานกว่า 40 ปี แต่วิวัฒนาการของการเดินทางนั้นเน้นไปที่ประสบการณ์ ซึ่งสะท้อนถึงรสนิยมและแรงบันดาลใจที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเป็นการพิสูจน์ว่า “ไลฟ์สไตล์” คือมนต์เสน่ห์แห่งการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ก้าวข้ามระดับดาวของโรงแรม และมุ่งเน้นไปที่การตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางรายบุคคล

ตลาดไลฟ์สไตล์เริ่มขยายไปตจว.

ด้าน นายเจสเปอร์ ปาล์มควิช  ผู้อำนวยการอาวุโสภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก STR บริษัทในเครือ CoStar Group กล่าวว่า ด้วยประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวอันยาวนาน บวกกับจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ ความสนใจในด้านการออกแบบ และแรงดึงดูดจากนักลงทุน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตลาดโรงแรมไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต แต่แนวโน้มนี้ยังเริ่มขยายไปสู่ตลาดรองในต่างจังหวัดด้วย ซึ่งปัจจัยขับเคลื่อน “ไลฟ์สไตล์” ที่สำคัญ อาทิ ประสบการณ์ การออกแบบ ศิลปะ ความเป็นอยู่ที่ดี  และวิถีชีวิตท้องถิ่น รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากเช่นกัน

สำหรับ นายแพทริค โบธ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มโรงแรมระดับหรูและไลฟ์สไตล์ ประจำประเทศไทย อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า  การสร้างการมีส่วนร่วมโดยผู้คนสามารถเข้าถึงได้ผ่านอาหารการกิน การทำงานร่วมกันระดับชุมชน หรือการส่งมอบแบบใกล้ชิด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ สิ่งนี้สร้างความแตกต่างเป็นอย่างมาก

รวมไปถึง นายมาร์ค เวนการ์ด ผู้ก่อตั้ง อินิเอลากรุ๊ป ยังกล่าวต่อว่า  ความเป็นส่วนตัว และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใครคือกุญแจสำคัญของ Iniala Group ดังนั้นในเครืองจึงมีสถานที่พักผ่อนสุดชิคของเหล่าคนดังอย่าง Iniala Beach House บนหาดนาใต้ ทางตอนเหนือของภูเก็ต  ล่าสุดได้เปิดร้าน Aulis ที่จะมอบประสบการณ์เชฟเทเบิ้ลให้กับผู้เข้าพัก ด้วยร้านขนาด 15 ที่นั่ง