“ครูบัญชีอาสา” นับเป็นกลไกสำคัญที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้เป็นเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านบัญชีขยายผลลงไปสู่ภาคประชาชนในพื้นที่เกษตรให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้องค์ความรู้ด้านบัญชีช่วยวางแผนการประกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพิ่มรายได้ และมีเงินเหลือเก็บออม นำไปสู่ความมั่นคงในชีวิต

ในแต่ละปี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์จะคัดเลือกครูบัญชีอาสาที่มีความรู้ ความสามารถและมีความเชี่ยวชาญ ในการประกอบอาชีพด้านการเกษตรควบคู่กับการนำบัญชีไปประยุกต์ใช้ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติคุณของครูบัญชีอาสาและเป็นต้นแบบให้เกษตรกรรายอื่นได้นำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพต่อไป สำหรับเกษตรกรดีเด่นสาขาบัญชีฟาร์ม ชนะเลิศ ระดับประเทศ ประจำปี 2566 ได้แก่ นายบรรจง แสนยะมูล จากจังหวัดมหาสารคามเป็นตัวอย่างของครูบัญชีอาสาที่ก้าวข้ามวิถีชีวิตเกษตรแบบเดิม นำบัญชีเป็นเครื่องมือในการวางแผนการดำเนินชีวิตและวางแผนการผลิตทางการเกษตรอย่างเป็นระบบ สามารถสร้างรายได้และลดต้นทุน มีฐานะที่มั่นคง พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายคนทำบัญชีและการเกษตรในชุมชน เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ด้านการจดบันทึกบัญชีและด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกรในชุมชน นำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์และเห็นผลจริง

นายบรรจง แสนยะมูล เล่าว่า การจดบันทึกบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเกษตรกร เมื่อรู้รายรับ รู้รายจ่าย จึงนำข้อมูลทางบัญชีมาวางแผนปรับลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและต้นทุนในการประกอบอาชีพให้มีกำไรและมีเงินเหลือเก็บออม จากเดิมที่ทำเกษตรเชิงเดี่ยว ทำนาโดยใช้สารเคมี เมื่อเห็นตัวเลขจากการจดบันทึกบัญชีจึงทราบว่าค่าใช้จ่ายหมดไปกับค่าปุ๋ย ค่าสารเคมี ทำให้ต้นทุนสูงแต่ขายข้าวได้ราคาต่ำ จึงปรับเปลี่ยนมาทำนาข้าวหอมใบเตยอินทรีย์ ซึ่งเป็นข้าวเพื่อสุขภาพที่มีราคาสูงกว่าข้าวปกติ ประกอบกับหันมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ทำให้สามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยลงได้ส่วนหนึ่ง ควบคู่กับการปรับปรุงบำรุงดิน ทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นทุกปี สามารถขายได้ทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าว และแปรรูปเป็นข้าวสาร ขนมแครกเกอร์ข้าวหอมใบเตย ชาข้าวหอมใบเตย และยังต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกหลากหลายชนิด เช่น เซรั่มน้ำไผ่ ซึ่งมีผลตอบรับที่ดี สามารถสร้างรายได้หลายช่องทางมากขึ้น จึงนับเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการทำบัญชีและนำข้อมูลทางบัญชีมาวิเคราะห์ วางแผนการทำธุรกิจจนเห็นช่องทางสร้างอาชีพที่มั่นคง

จากความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำบัญชีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 2561 ได้เป็นครูบัญชีอาสาของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์มหาสารคาม ได้เรียนรู้การทำหน้าที่เป็นวิทยากรในการต่อยอดความรู้ด้านการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกรในชุมชน โดยถอดบทเรียนจากประสบการณ์ตรงของตนเองไปถ่ายทอดความรู้ เริ่มต้นจากคนใกล้ตัว เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ ด้วยเชื่อว่าหากคนใกล้ตัวให้การยอมรับแล้ว การจะไปส่งต่อให้กับคนอื่นก็จะได้รับการยอมรับเช่นกัน ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มจำนวนกว่า 130 คน และมีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนอีก 7 แห่ง และอีก 1 กลุ่มชุมชน ซึ่งครอบคลุมทุกตำบลในพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม โดยมีครูบรรจงเป็นจุดศูนย์กลางถ่ายทอดความรู้ให้แก่ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ต่อยอดเป็นเครือข่ายคนทำบัญชีและการเกษตรในชุมชน ช่วยส่งต่อความรู้ให้แก่สมาชิกกลุ่มของตนเอง สามารถแตกแขนงความรู้ขยายเครือข่ายครูบัญชีเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และเครือข่ายครูบัญชีจะรวบรวมบัญชีของสมาชิกกลุ่มส่งกลับมายังส่วนกลางเพื่อเป็นฐานข้อมูลทำให้สามารถติดตามผลการดำเนินงานหรือหากพบปัญหาอุปสรรคก็จะได้แก้ไขได้อย่างตรงจุด

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากอาจารย์ในสถาบันการศึกษาในพื้นที่ สนับสนุนอาจารย์และนักศึกษาจากคณะบัญชี ในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรในชุมชนอีกทางหนึ่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกร ทั้งยังได้จัดกิจกรรมสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนทั่วไปที่เห็นความสำคัญของการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนและมีการส่งบันทึกบัญชี
อย่างต่อเนื่อง โดยจะได้รับสิทธิพิเศษในการพิจารณามอบปัจจัยการผลิตต่าง ๆ หรือเงินรางวัลและอุปกรณ์การจัดทำบัญชีจากหน่วยงานที่สนับสนุน ดังนั้น สมาชิกคนใดไม่ทำบัญชีหรือทำแล้วไม่ส่ง จะไม่มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือก คาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้สมาชิกมีการจดบันทึกบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 70% เป็น 100% อย่างไรก็ตาม ได้วางแผนดำเนินโครงการอื่นๆ ที่จะช่วยส่งเสริมการทำบัญชีให้ขยายผลไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่นด้วย เช่น การถ่ายทอดความรู้เรื่องการทำบัญชีให้แก่วัดในชุมชนให้สามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างโปร่งใส

“ต้องยอมรับว่าปัญหาของเกษตรกรหนีไม่พ้นเรื่องรายจ่ายเยอะ รายรับที่ไม่แน่นอน และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือปัญหาหนี้สิน เราในฐานะครูบัญชีต้องชี้ให้เขาเห็นว่าการจัดทำบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพคือแสงสว่างที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างไร แต่ก่อนอื่นต้องเลิกอ้างว่าทำบัญชียุ่งยากเพราะจะเป็นกำแพงกั้นขวางสู่ความสำเร็จ ทุกคนต้องกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง แม้ว่าการทำบัญชีเป็นสิ่งท้าทายเพราะต้องลงมือทำอย่างตั้งใจจริง แต่ถ้าทำบัญชีได้ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลบัญชี ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของตนเองเพื่อก้าวไปให้ถึงจุดหมายปลายทางได้ไม่ยาก ถ้าจะเปรียบนิยามการจัดทำบัญชีครัวเรือนก็เสมือนอุปกรณ์ป้องกันตนเอง ขนาดเราขับขี่รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ยังต้องใส่หมวกกันน็อกหรือคาดเข็มขัดนิรภัย ฉะนั้นถ้าอยากชีวิตที่ดีในอนาคต ก็ควรเซฟตัวเองด้วยการลงมือจดบันทึกบัญชีครัวเรือน ท่านก็จะได้เห็นรายรับ รายจ่าย และเห็นช่องทางในการอยู่รอด”ครูบัญชีอาสาดีเด่นแห่งชาติ กล่าว