ประเทศอินโดนีเซีย ดินแดนแห่งหมู่เก่าะและมีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และวัฒนธรรมฮินดูที่เก่าแก่อยู่ที่ เกาะบาหลี ออกไปทางตอนใต้เกาะชวา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเป้าหมายของนักเดินทางทั่วโลก

หนึ่งปีมีครั้งเดียว สำหรับชาวบาหลีที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู สำหรับเทศกาลเตรียมสู่ฤดูกาลปีใหม่ ที่เรียกว่า วัน Nyepi หรือ นีเยปิ เป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่ของชาวบาหลีและเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น “วันแห่งความเงียบ” 

วันนีเยปิ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวบาหลีด้วย สิ่งที่ทำให้ประเพณีนี้เป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก ก็เพราะวันนี้ทุกคน ห้าม! ออกไปข้างนอก ทำงาน สังสรรค์ เดินทาง เปิดไฟ กระทั่งห้ามพูดคุยกันเลยก็มี เพื่อหลอกไม่ให้ “ผี” รู้ว่ามีคนอยู่นั่นเอง ทุกคน โดยช่วงที่ต้องปฏิบัติคือตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 6 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ทั้งเกาะจะไม่มีกิจกรรมการพูดคุย และอยู่ในความเงียบอย่างสมบูรณ์ เพื่อที่ว่าเมื่อวิญญาณชั่วร้ายลงมาบนเกาะบาหลีจะได้เข้าใจว่าที่นี่ไม่มีใครอยู่และจะไม่มีวุ่นวายกับเกาะบาหลีไปอีกปี


ไม่เว้นแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวผู้คนทั้งบนเกาะบาหลีจะอยู่ในความเงียบเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หนึ่งวันก่อนวันนีเยปิจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองด้วยพิธีกรรมต่าง ๆ จะมีขบวนแห่โอกอห์ โอกอห์ (Ogoh-Ogoh) หรือ หุ่นจำลองตัวแทนของเทพที่หน้าตาจะดูดุดันน่ากลัว เพื่อจะขับไล่ภูตผีปีศาจออกไปให้พ้นจากพื้นที่เกาะบาหลีเสียในระหว่างวันนีเยปิ ผู้คนทั่วทั้งเกาะบาหลีจะอยู่ในความเงียบสงบ ร้านค้ากิจการต่างๆจะปิดทำการ ผู้คนจะพากันหมด 


ตามปฏิทินทางจันทรคติสกาของบาหลีซึ่งปีนี้ วันเทศกาลนีเยปิ ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม 2566 โดยค่ำคืนของวันที่ 21 มีนาคม จะมีขบวนแห่เทพแห่งผีโอกอห์ โอกอห์ทั้งเกาะบาหลี ร้านค้าสถานที่ต่างจะปิดร้านเร็วกว่าทุกวัน เพื่อให้พนักงานได้เดินทางกลับบ้านและเตรียมตัว โดยผู้คนทั้งชาวท้องถิ่นละนักท่องเที่ยวต้องออกมาจับจ่ายสินค้าเพื่อรับประทานในวันแห่งความเงียบ ซึ่งคือวันที่ 22 มีนาคมนั่นเองแล้วแห่ไปรอบๆหมู่บ้านสองหรือสามรอบ พอฟ้าเริ่มมืดลง พวกเขาจะขับไล่ ปีศาจแห่งความชั่วร้ายด้วยการทำให้เกิดเสียงดัง ขั้นตอนสุดท้ายคือการเผาตุ๊กตาปีศาจ ในกองไฟและด้วยคบเพลิง จากนั้นงานเลี้ยงฉลองจึงจะเริ่มขึ้นตามมา


ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศวันแห่งความเงียบที่เกาะบาหลีที่มีเพียงเสียงคลื่นทะเลเห่กล่อมเท่านั้น ท้องฟ้าดวงดาวจะสกาวได้เต็มแสง ถนนหนทางเงียบสนิมไม่มีใครออกนอกเคหะสถาน และคล้อยหลังรุ่งเช้าอีกวันทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ

ใบบัวน้อย ลอยกลางบึง //รายงาน-ภาพ

 


เมื่อความเงียบได้ทำงาน

สุดขอบฟ้ามหาชะเลกว้าง
เม็ดน้ำด่างเปลวแดดได้แผดเผา
แต่ความเงียบได้ทำงานผ่านใจเรา
ย้อนเรื่องเก่าเสียงคลื่นจะครืนครวญ

เมื่อถูกเข้าใจผิดไม่คิดผูก
เท็จ-จริงถูกแค่เพียงเสียงลมหวน 
กาลเวลาคือคำตอบกรอบกระบวน
ตราบคลื่นม้วนโถมท้นเกินทนทาน

ถูกทำร้ายให้อภัยในใจจิต 
กรุณาแห่งทิศห้วยละหาน
อบอุ่น-ฉ่ำเย็นยิ้มริมสายธาร
เวลากาลจะพิสูจน์คำพูดคน

ไม่โต้แย้งนิ่งถนัดแต่ชัดใส
ฟ้าพรำพรมผ่านไปในสายฝน
หลังท้องฟ้ากระจ่างรื่นชื่นกมล
หมดพายุผ่านพ้นไม่หม่นมอง

บางเรื่องก็ยากนักจักอธิบาย
ไม่สาธยายคล้ายหม่นหมอง
เรียนรู้จักนิ่งเงียบแล้วตรึกตรอง
เขารู้หนึ่งไม่ถึงสองของถ้อยคำ

ความสูงใช่ว่าเห็นเป็นเด่นชัด
ใช่จำกัดมากน้อยพลอยเหยียบย่ำ
อยู่ที่มองสิ่งต่าง ๆ ทางกระทำ
มีกว้างแคบสูงต่ำหนักเบาบาง

ถึงรู้จักคนมากมายในโลกนี้
ใช่ว่ารู้จักดีที่โลกกว้าง
ไม่ได้อยู่ที่จำนวนทวนเส้นทาง
ยอมรับอย่างที่เป็นเขาพร้อมเข้าใจ

จึงหนักแน่นแข็งแกร่งแรงภูผา
รับล้านสิ่งผ่านมาไม่หวั่นไหว
ล้านลมโบกส่ำเสียงสำเนียงใด
ตราบกาลอสงไขยใจปัถพิน

เป็นผู้ยอมเสียเปรียบไม่เหยียบอ้าง
จงเอาอย่างคุ้งแควกระแสสินธุ์
ย่อมเชี่ยวนิ่งขึ้นลงคงแรงริน
ไม่สุดสิ้นคุณค่าแห่งสาคร

ผ่านบทเรียนความพ่ายแพ้แค่หลายหน
เหมือนการฝึกใจตนใช่คนอ่อน
ถึงเหนื่อยล้าอ่อนพลังจงนั่งนอน
รอแดดอ่อนลมบ่ายร่ายฉะนี้

ในความเงียบเวิ้งว้างกว้างไพศาล
คลี่แถบฟ้ากั้นม่านสุรีย์ศรี
ท่วงทำนองฆ้องไหวใจวารี
ฉันก็ทำหน้าที่กวีกานท์

มหา สุรารินทร์

วันเทศกาลนิเยปิ  22 มีนาคม 2566
H-Ostel Bali  เกาะบาหลีทางตอนใต้ ประเทศอินโดนีเซีย