กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ โดยการนำระบบบัญชีมาใช้บริหารจัดการสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความโปร่งใส ส่งผลประโยชน์สู่สมาชิกและช่วยสร้างฐานรากเศรษฐกิจชุมชนที่มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศได้อย่างเข้มแข็ง

อีกทั้ง เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสหกรณ์ ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและมีมูลค่าทางธุรกิจกว่า 3.๗๒ ล้านล้านบาท กรมฯ จึงได้พัฒนาระบบบัญชีให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจสหกรณ์ในปัจจุบัน โดยพัฒนาโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (Cooperative Full Pack Accounting Software : FAS) เป็นโปรแกรมที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ออกแบบตามลักษณะการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ในทุกๆ ด้าน

ประกอบด้วย ระบบสมาชิกและหุ้น ระบบเงินให้กู้ ระบบเงินรับฝาก ระบบสินค้า และระบบบัญชีแยกประเภท เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการวางระบบบัญชีที่เป็นมาตรฐานให้แก่สหกรณ์ สามารถให้บริการสมาชิกแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ช่วยให้การบริหารจัดการและการให้บริการสมาชิกเกิดความสะดวกรวดเร็ว ผู้บริหารสหกรณ์สามารถนำข้อมูลสารสนเทศทางการเงินมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อเหตุการณ์ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก สามารถปิดบัญชีได้อย่างรวดเร็ว 

ปัจจุบันมีสหกรณ์ที่นำโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ไปใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยบริหารจัดการงานสหกรณ์ รวม 2,539 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 71.59 ของสหกรณ์ที่ใช้โปรแกรมทั้งหมด (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565) โดยกรมฯ ได้วางแผนพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทุกระบบ รองรับกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลทางการเงินมาใช้ในการบริหารงานสหกรณ์ และให้บริการสมาชิกได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว สหกรณ์มีข้อมูลรายการที่เกิดขึ้นประจำวันจัดเก็บไว้ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้บริหารสหกรณ์สามารถวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อคาดการณ์แนวโน้มและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งสามารถติดตามและกำกับดูแลการจัดการของฝ่ายจัดการสหกรณ์ได้

ทั้งนี้ ดำเนินการผ่านสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทุกจังหวัด ร่วมขับเคลื่อนการส่งเสริมสหกรณ์ที่ยังไม่ได้ใช้โปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ ให้มีความรู้ความเข้าใจการใช้งานโปรแกรมและวางแผนการติดตั้ง พร้อมสอนแนะการใช้งานโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ต่อไป โดยที่สหกรณ์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำให้สหกรณ์มีระบบการเงินและบัญชีที่เป็นมาตรฐานและมีระบบการควบคุมภายใน ด้านสารสนเทศที่เหมาะสม รวมทั้งสร้างความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอีกด้วย