ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 24 ใช้ความเถรตรงนำทาง หลังเดินหน้าทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรี สร้างประโยชน์ให้ประชาชนฟรีไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย พร้อมวางทุกหัวโขนมุ่งหน้าสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ อาสารับใช้คนจนกำลังพลส่วนใหญ่ของกรุงเทพมหานคร วันที่ 3 พ.ค.2565 ดร.โฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 24 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 ซึ่งตรงกับวันแรงงาน เป็นวันหยุดสำหรับครอบครัว ตนได้ลงพื้นที่ไปแนะนำตัวต่อผู้ค้า และผู้ที่ไปจับจ่ายใช้สอย ที่ตลาดน้ำเขตตลิ่งชัน และตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน หลังพบปะพูดคุยกับชาวบ้านทำให้ได้รับฟังเสียงและการตอบรับจากประชาชนยุคใหม่ในมุมที่ไม่เคยประสบ และไม่คิดว่าจะได้ยินแนวคิดความรู้สึกแบบตรงๆ เช่นนี้มาก่อน ดร.โฆสิต กล่าวอีกว่า มีหัวหน้าครอบครัวท่านหนึ่งพูดให้ฟัง แกมถามแบบตรงๆ กับตนว่า จะให้เลือกเบอร์ไหน เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเลือกใครก็เข้ามาโกงกินอยู่ดี? หลังได้ยินคำนี้ก็รู้สึกดีใจขึ้นทันที เหมือนการได้โอกาสตอบคำถามที่รอคอยให้มีคนเอ่ยถามมานาน เพราะที่ผ่านมาตนเคยยืนยันบนเวทีเปิดนโยบาย ที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ ไปแล้วครั้งหนึ่งว่า เงินเดือนผู้ว่าฯ กทม.แสนกว่าบาทมากเกินพอ พร้อมให้สัจจะต่อชาวบ้านเกือบ 1,000 คน ที่เดินทางมาจากทุกสำนักงานเขตว่า จะไม่มีคอรัปชั่นใดๆ เกิดขึ้นเพื่อนำเงินเข้ากระเป๋าแน่นอน ตนเชื่อว่า คนดีจริง ต้องดีแบบให้คนอื่นเขาพูดถึง ไม่ใช่การพูดบนเวทีว่าตัวดีอยู่ฝ่ายเดียว จึงรีบตอบหัวหน้าครอบครัวท่านนั้นไปว่า “อย่าห่วงเลย ถ้าท่านเลือกผมเบอร์ 24 เข้ามารับใช้ ผมรับประกันความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่ให้สัจจะแค่เฉพาะกับท่าน ก่อนหน้านั้นผมกับทีมงานได้ตั้งสัตยาธิษฐานต่อคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่วัดอรุณฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะตั้งใจทำงานแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้คนกรุงเทพฯ อย่างรวดเร็วและโปร่งใส จะไม่ยอมให้มีปัญหาการทุจริตใดๆ เกิดขึ้น ถ้าผิดจากคำพูดนี้ขอให้ผมมีอันเป็นไป” ดร.โฆสิต กล่าวด้วยว่า หลังตอบคำถามจบ หัวหน้าครอบครัวท่านนั้นก็โผกอดตนเสมือนเป็นญาติสนิทคนหนึ่ง ซึ่งการวางกรอบและนโยบายที่ตนเน้นนำเสนอเรื่อง ผู้ว่าฯ กทม.ต้องอิสระจากพรรคการเมือง 100% หรือ “ต้องปลด กทม.จากพรรคการเมือง” รวมถึงการที่ตนแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่ส่ง สมาชิกสภา กทม.(ส.ก.) แม้แต่คนเดียว เพื่อแสดงความโปร่งใส พร้อมรับการตรวจสอบจาก ส.ก.ทุกท่านที่มีหน้าที่สำคัญคือตรวจสอบการบริหารของผู้ว่าฯ กทม.นั้นเพราะตนเชื่อว่าการทำงานให้สำเร็จหลังจากนี้ต้องใช้ความสุจริตเป็นที่ตั้งเพื่อให้การบริหารงานเดินหน้าไปได้อย่างแท้จริง “ก่อนหน้านี้ได้เคยทำงานในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีแทบทุกรัฐบาล ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย สามารถตรวจสอบได้ และยังเป็นอนุกรรมการใน ป.ป.ช.อีกหลายคณะ กระทั่งลาออกจากทุกตำแหน่งมาลงสมัคร ผู้ว่าฯ กทม.ได้หมายเลข 24 มีหลายคนท้วงติงว่าทำไมตน ไม่รอเป็นรัฐมนตรีไปเสียเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่มีความพร้อมอยู่แล้ว ตนก็บอกไปว่าตนเชื่อมั่นว่าตนเหมาะกับหน้าที่ ผู้ว่าฯ กทม.มากกว่า ประกอบกับพื้นเพเป็นคนในชุมชน ทุกวันนี้ก็ยังพักอยู่ในชุมชนสุนทรศิริ เขตห้วยขวาง มั่นใจว่า นโยบาย ช่วยคนจนได้ ทำมาหากิน 24 ชั่วโมง พักหนี้ มีงานทำ มีเงินเหลือ จะทำให้ กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งความสุข 24 ชั่วโมง ได้ในระยะเวลาเร่งด่วน ตอนนี้ปัญหาปากท้องเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินชีวิตมากที่สุด" ดร.โฆสิต กล่าว