วันที่ 24 เม.ย.65 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 6 ขึ้นเวทีปราศรัย ณ อุทยานเบญจสิริ ซึ่งถือเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งที่ 2 พร้อม ผู้สมัคร ส.ก. กลุ่มรักษ์กรุงเทพ กลุ่มโซนกรุงเทพใต้ ที่มีผู้สมัคร ส.ก. ทั้งหมด 11 คน 11 เขต ประกอบไปด้วย -เขตพระโขนง นางสาวพชญา ปรีฎาพาก หมายเลข 2 -เขตยานนาวา นายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ หมายเลข 4 -เขตบางคอแหลม นายปรุงศักดิ์ เชาวน์ชาติ หมายเลข 5 -เขตสวนหลวง นายพงศ์ไพศาล มะลูลีม หมายเลข 6 -เขตปทุมวัน ดร.เมธาวี ธารดำรงค์ หมายเลข 6 -เขตสาทร นายอภิชาต สนิทวงศ์ ณ อยุธยา หมายเลข 3 -เขตวัฒนา นายยุทธพิชัย ชาญเลขา หมายเลข 2 -เขตคลองเตย นายสุชัย พงษ์เพียรชอบ หมายเลข 5 -เขตบางนา นายคำรณ บำรุงรักษ์ หมายเลข 6 -เขตประเวศ นายอภิชาติ จรัสโภคา หมายเลข 5 โดยบรรยากาศ การปราศรัยเป็นไปด้วยความคึกคักเพราะมีบรรดากองเชียร์ของผู้สมัคร ส.ก.แต่ละเขต กว่า 1,000 คน มาให้กำลังใจ ทั้งผู้สมัครเขตของตนเอง และ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ หมายเลข 6 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง กันอย่างเนืองแน่น พล.ต.อ.อัศวิน ได้กล่าวแนะนำตัวบนเวทีปราศรัยกับพี่น้องประชาชน ที่ชมผ่าน Facebook Live เพจ อัศวิน ขวัญเมือง และทักทาย พี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย โดยกล่าวว่า...อัศวิน ขวัญเมือง เบอร์ 6 วันนี้ดีใจและขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังหรือรับชมอยู่ทางบ้าน “กรุงเทพมหานคร” เป็นเมืองแห่ง “ความหวังและโอกาส” ที่ใครหลายคนอยากเข้ามาศึกษา ทำงาน  ใช้ชีวิต รวมทั้งสร้างครอบครัว  ซึ่งทุกคนล้วนคาดหวังอยากที่จะได้รับความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ดี แต่...การเติบโตของเมืองทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ดังนั้น “การบริหารงานของกรุงเทพฯ ถือเป็นการบ้านไม่ใช่การเมือง” เป็นการบ้านที่ผู้ว่า กทม.ต้องรับปัญหาจากพี่น้องประชาชนเป็นการบ้านที่ต้องเอากลับไปคิด หาทางที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนแต่ละคน ที่ผ่านมาแต่ละยุคแต่ละสมัยมีแต่นโยบายสวยหรู แต่ไม่สามารถนำมาสู่การปฏิบัติก็ไม่เกิดประโยชน์ ไร้สาระ วันนี้ ตนจึงอยากมาพูดกับพี่น้องประชาชนให้ทราบสิ่งสคัญที่จะทำต่อ 4 เรื่อง คือ ประเด็นที่ 1 การจราจร โดยกล่าวว่า ถ้าย้อนไปดูเมื่อปี 2559 ก่อนตนมาเป็นผู้ว่า กทม. รถติดเป็นอับดับ 2 ของโลก โดยที่ผ่านมา ตนก็พยายามแก้ปัญหานี้ โดยทำทั้งการส่งเสริมให้คนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น จึงเป็นที่มาของ รถ BRT และรถ EV Shuttle ฟรี รวมทั้งจัดบริการเรือไฟฟ้าฟรี ที่เป็นเรือไฟฟ้าเส้นทางแรกของประเทศไทย และที่สำคัญตอนนี้มีแล้วสองสาย คือ คลองผดุงฯ และคลองแสนแสบ นอกจากนี้ ยังผลักดันการสร้างถนนต่างๆทั้งทางลอด ทางข้าม เพื่อช่วยลดการจราจรติดขัด โดยมีการยกตัวอย่างที่ ถนนอรุณอัมรินทร์ที่จะไปศิริราชแต่ก่อนรถติดมาก พอเราสร้างทางยกระดับ ปัจจุบันสามารถแก้ไขปัญหาไปเยอะ ประเด็นที่ 2 ปัญหาปากท้อง ได้พูดถึงความเข้าใจ ในความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดีเพราะตนเป็นลูกแม่เค้า ถ้าเรากินอิ่ม นอนหลับก็ทำอะไรต่อได้อีกเยอะ กรุงเทพฯ มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว วันที่ 1 พฤษภาคม รัฐบาลจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้ ด้วยความต้องการของ นักท่องเที่ยวมี 3 อย่าง คือ “ที่พักสะดวก อาหารถูกปาก ของฝากถูกใจ” ดังนั้นที่ผ่านมาตนได้ผลักดันการพัฒนาจุดต่างๆของเมือง ให้เป็นจุดน่าท่องเที่ยว รวมทั้งทำถนนคนเดิน เพราะถนนคนเดินจะตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้ง 3ข้อที่กล่าวไปแล้ว และถ้ามีโอกาสกลับมา...ตนอยากจะผลักดันให้มีถนนคนเดินทุกเขต เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวและการค้าขายให้กลับมา และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ “แต่ที่ผ่านมานั้นยังไม่สมดุลกันระหว่างคนเดินเท้ากับพ่อค้าแม่ขาย” จึงได้หารือทำจุดผ่อนผัน ซึ่งผมคิดว่าจำเป็น ก็ยังคงต้องแก้ปัญหาระยะสั้น ดังนั้น ต่อไปการทำจุดผ่อนผันจะต้องมีคณะกรรมการชุมชน และคนในชุมชนเข้ามาช่วยออกแบบ ปัญหาก็จะลดน้อยลง และจะทำโครงการ “ตลาดชุมชน” เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยการจัดพื้นที่ค้าขายให้กับพี่น้องประชาชนอย่างถูกต้องและมีราคาถูก และจะดูแลเรื่องปากท้อง รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการผลักดันถนนคนเดินประจำเขต และการดูแลพ่อค้าแม่ค้า จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้ดีขึ้น ทำให้พี่น้องกินอิ่ม นอนหลับมากยิ่งขึ้น ประเด็นที่ 3 เรื่องปัญหาน้ำท่วม ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานานของกรุงเทพ โดยเฉพาะเมื่อฝนตกระบายไม่ทัน ก็จะเกิดปัญหาอื่นๆตามมา ทั้งรถติดและปัญหาสุขภาพ ที่ผ่านมาตนได้ทำสำเร็จไปแล้วบางส่วน ซึ่งเดิม กทม.มีจุดเสี่ยงน้ำท่วมประมาณ 24 จุด แก้ไขได้แล้ว 15 จุด ตอนนี้ยังเหลืออยู่อีก 9 จุด เป็นสิ่งที่อยากจะทำต่อให้เสร็จ” นโยบายของตนต้องการ “ทำจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซากอีก 9 จุด ให้หมดไป โดยวิธีแก้ปัญหามีทั้งทำท่อระบายน้ำที่มีขนาดเล็กระบายน้ำได้ไม่ทัน จะแก้ปัญหาด้วยการขยายท่อหรือสร้างรางระบายน้ำช่วยเร่งการระบายน้ำ ผลักดันการสร้างอุโมงค์ระบายน้ำเพิ่มเติม เพื่อช่วยลดระยะเวลาการไหลของน้ำตามธรรมชาติ จุดใดที่ฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำมากๆ ระบายไม่ทัน จะมีการสร้างพื้นที่รับน้ำหรือบ่อหน่วงน้ำใต้ดินเพิ่มเติม จุดฟันหลอริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีการสร้างคันเขื่อนกั้นน้ำ เพื่อกันไม่ให้น้ำทะลักเข้ามาท่วมในพื้นที่ในเวลาที่น้ำหนุนสู' ซึ่งที่ผ่านมา ตนทำไปได้แล้วประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และ 5 ปีเศษที่ผ่านมา ตนแก้ปัญหาจุดเสี่ยงน้ำท่วมไปแล้ว 15  จุด ดังนั้น อีก 9 จุด ใน 4 ปีที่เหลือไม่ใช่ปัญหาและจุดเสี่ยงซ้ำซากพวกนี้ต้องหมดไป ประเด็นที่ 4 การรักษาพยาบาล เป็นสิทธิพื้นฐานของพี่น้องประชาชนควรจะต้องได้รับ ที่ผ่านมาตนได้เพิ่มโรงพยาบาลหลักๆ ให้ตามมุมเมือง ให้พี่น้องแต่ละโซนได้เข้าถึงบริการโรงพยาบาลขนาดใหญ่ได้ พร้อมกับพัฒนาระบบบริการของศูนย์สาธารณสุขให้ดีขึ้น ทั้งเทเลเมดิซิน การส่งยาถึงบ้าน โดยไม่ต้องเดินทางไปไกล และยกระดับศูนย์สาธารณสุขเป็นโรงพยาบาลประจำเขตด้วย และยืนยันว่า โรงพยาบาลประจำเขตจะทำให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงระบบการรักษาที่ทั่วถึง รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น อย่างแน่นอน