“ศิธา เบอร์ 11” พร้อมผู้สมัคร ส.ก.ไทยสร้างไทย ลุยหาเสียงริมเจ้าพระยา ข้ามเรือเดินตลาดวังหลัง คุยพ่อค้าแม่ขาย ย้ำอีกครั้ง ไทยสร้างไทย ให้ความสำคัญคนตัวเล็ก โดยจะเติมทุน เพิ่มพื้นที่ค้าขาย เพิ่มเวลาค้าขาย24 ชั่วโมง ด้วยกองทุนเครดิตประชาชน ประกาศบอกลาหนี้นอกระบบ ใช้กทม.นำร่องมอบ“เครดิตให้ประชาชน” เข้าถึงแหล่งทุนในการทำมาหากิน วันที่ 20 เมษายน 2565 น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่า กทม.หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายสรเทพ โรจน์พจนารัช ผู้สมัคร ส.ก.หมายเลข 4 เขตพระนคร และนายวีรยุทธ ว่องศิริพร ผู้สมัครส.ก.หมายเลข 2 เขตบางกอกน้อย พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ พบปะพี่น้องประชาชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงพ่อค้าแม่ขาย ย่านท่าพระจันทร์ เพื่อขอคะแนนสนับสนุนและโอกาสให้ทีมไทยสร้างไทยได้เข้าไปรับใช้ ซึ่งทีมผู้ว่าฯไทยสร้างไทยได้เดินสำรวจสภาพเศรษฐกิจการค้าการขาย และวีถีชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่บริเวณทางออกประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เรื่อยมาจนไปถึง ท่าเรือท่าช้าง รวมทั้งได้เดินเท้าเข้าเยี่ยมชาวบ้านในชุมชน ท่าวัง เพื่อพูดคุยกับ ประธานชุมชนถึงเรื่อง เขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชำรุดรั่ว เพื่อหาแนวทางแก้ไขซ่อมแซม เพราะเป็นพื้นที่ชั้นในพระนคร ที่สำคัญด้วย จากนั้นทีมผู้ว่าฯไทยสร้างไทย ได้นั่งเรือข้ามฝากไปยังเขตบางกอกน้อย โดยลงเรือที่ท่าวังหลัง พร้อมเดินแนะนำตัวเพื่อขอคะแนนสนับสนุน ซึ่งตลอดการหาเสียงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พ่อค้าแม่ขาย พี่น้องประชาชนที่มาเดินท่องเที่ยว จ่ายตลาดในช่วงเย็นให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น สอบถามนโยบายพรรค นโยบายของผู้ว่าฯกทม. ด้วยความสนใจ และมีบางส่วนที่เรียกร้องให้ทางกรุงเทพมหานครเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาประสบวิกฤตด้านการค้าขายอย่างหนัก เพราะสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงการระบาดของวิกฤตโควิด -19 ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย คนค้าขายรายเล็ก ต้องประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง และภาระหนี้สินโดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ซึ่ งน.ต.ศิธา ย้ำว่า ผู้ว่าของพรรคไทยสร้างไทย ให้ความสำคัญกับคนตัวเล็กมาเป็นที่หนึ่ง จึงได้สร้างนโยบายที่จะช่วยยกระดับคนค้าขาย คนตัวเล็กให้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง เช่นการจัดโซนส่งเสริมการค้าขายตลอด 24 ชั่วโมง โดยดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของคนแต่ละพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนในย่านต่างๆ โดยจะใช้อำนาจของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มีอยู่ เข้าไปบริหารจัดการพื้นที่ค้าขายทั้ง50เขต ให้พี่น้องชาวกทม.มีพื้นที่ผ่อนคลายหลังเวลาเลิกงาน หรือยามค่ำคืนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในส่วนของ Street Food ก็สามารถเข้ามาร่วมได้ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลว่า จะถูกระเบียบหรือกฎเกณฑ์ มากีดกันการทำมาหากินหรือไม่ ขณะเดียวกัน ทีมผู้ว่าไทยสร้างไทย ยังประกาศสนับสนุน กองทุนคนตัวเล็กหรือนโยบาย กองทุนเคตดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก ของพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งจะใช้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อให้พี่น้องชาวกทม.มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน มอบ “เครดิตแก่ประชาชน” ในการทำมาหากิน เลิกพึ่งพิงหนี้นอกระบบ และกองทุนดังกล่าว จะเป็น “เครดิต” ที่มอบให้ติดตัว สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ1 ต่อเดือน กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งจะช่วยสร้างพลังและปลดปล่อยคนไทย โดยเฉพาะคนตัวเล็กพ่อค้าแม่ขาย ให้หลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงินและสามารถตั้งตัวได้ ยิ่งไปกว่านั้น เงินส่วนนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินในปัจจุบัน