วันที่ 19 เม.ย.65 นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ ระดับจังหวัดระนอง ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายจิรศักดิ์ บริบูรณ์ สหกรณ์จังหวัดระนอง และผู้แทนส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน ร่วมการประชุม เพื่อติดตามผลการบริหารจัดการเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ที่จังหวัดระนองได้รับจัดสรร และร่วมพิจารณาอนุมัติเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้แก่สหกรณ์ที่มีคุณสมบัติและประสงค์ขอกู้เงิน นำไปทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณปี พ.ศ.2565 ณ ห้องประชุมอินทนิล ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดระนอง
โดยที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ จำนวน 16.15 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการปกติ (อัตราดอกเบี้ยตามผลการจัดชั้นลูกหนี้) จำนวน 9.5 ล้านบาท และ 2)โครงการพิเศษ (อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1) จำนวน 6.65 ล้านบาท ให้กับสหกรณ์ 3 แห่ง คือ 1.สหกรณ์กองทุนสวนยางคอคอดกระ จำกัด จำนวน 5.3 ล้านบาท 2.สหกรณ์การเกษตรกระบุรี จำกัด จำนวน 8.1 ล้านบาท และ3.สหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกระบุรี จำกัด จำนวน 2.75 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้สหกรณ์ ตอบสนองความต้องการของสมาชิก และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สมาชิกสหกรณ์จากผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดและภัยธรรมชาติ
ทั้งนี้ เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์เป็นกองทุนที่เอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับสหกรณ์และสมาชิก ช่วยให้สหกรณ์ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องไม่หยุดชะงัก และที่สำคัญเป็นกองทุนดอกเบี้ยต่ำ ช่วยให้ต้นทุนทางธุรกิจของสหกรณ์ลดลงเมื่อเทียบกับเงินกู้จากสถาบันการเงินอื่น ทำให้สหกรณ์มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถลดค่าใช้จ่ายของสมาชิกโดยการลดต้นทุนการผลิตจากการซื้อสินค้าในราคายุติธรรมจากสหกรณ์ ส่งผลให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อสิ้นปีทางบัญชีหากสหกรณ์มีผลกำไรจากการดำเนินงาน สมาชิกก็ได้รับผลประโยชน์ในลักษณะของเงินปันผล เงินเฉลี่ยคืนเพิ่มเติมอีกด้วย
โดยที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ จำนวน 16.15 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการปกติ (อัตราดอกเบี้ยตามผลการจัดชั้นลูกหนี้) จำนวน 9.5 ล้านบาท และ 2)โครงการพิเศษ (อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1) จำนวน 6.65 ล้านบาท ให้กับสหกรณ์ 3 แห่ง คือ 1.สหกรณ์กองทุนสวนยางคอคอดกระ จำกัด จำนวน 5.3 ล้านบาท 2.สหกรณ์การเกษตรกระบุรี จำกัด จำนวน 8.1 ล้านบาท และ3.สหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตกระบุรี จำกัด จำนวน 2.75 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้สหกรณ์ ตอบสนองความต้องการของสมาชิก และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สมาชิกสหกรณ์จากผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดและภัยธรรมชาติ
ทั้งนี้ เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์เป็นกองทุนที่เอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับสหกรณ์และสมาชิก ช่วยให้สหกรณ์ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องไม่หยุดชะงัก และที่สำคัญเป็นกองทุนดอกเบี้ยต่ำ ช่วยให้ต้นทุนทางธุรกิจของสหกรณ์ลดลงเมื่อเทียบกับเงินกู้จากสถาบันการเงินอื่น ทำให้สหกรณ์มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถลดค่าใช้จ่ายของสมาชิกโดยการลดต้นทุนการผลิตจากการซื้อสินค้าในราคายุติธรรมจากสหกรณ์ ส่งผลให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อสิ้นปีทางบัญชีหากสหกรณ์มีผลกำไรจากการดำเนินงาน สมาชิกก็ได้รับผลประโยชน์ในลักษณะของเงินปันผล เงินเฉลี่ยคืนเพิ่มเติมอีกด้วย