วันที่ 3 เม.ย.65 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลย 6 ได้พาทีมผู้สมัคร ส.ก.เขตตลิ่งชัน นายชัชชนะ เอมปราณีต หมายเลข 4 พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่พบปะพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
โดย พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นเศรษฐกิจฐานรากที่ประชาชนทำขึ้นมาเอง ช่วงก่อนโควิดระบาด มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวแน่นไปหมด สมัยตอนที่เป็นผู้ว่าฯ ก็ได้นำตลาดคลองลัดมะยมเป็นต้นแบบ ในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน เป็นต้นแบบให้อีกหลายๆ ตลาด เพราะตลาดแห่งนี้ทำได้มาตรฐาน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว ยังเป็นเส้นทางสัญจรทางเรือไปตลิ่งชันได้อีกด้วย และหากสถานการณ์ covid หมดไป ก็จะทำให้เศรษฐกิจตรงนี้ดีขึ้น ในส่วนของคลองที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นเขตตลิ่งชัน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางพลัด บ่อบำบัดน้ำเสียก็กำลังทำและทำไปบ้างแล้ว เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงโครงการที่จะมีการทำส่วนต่อขยายสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ทวีวัฒนา เพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องน้ำสกปรก น้ำเน่าเสีย และน้ำท่วมในเขตฝั่งธนบุรีทั้งหมด เพราะคนฝั่งธนมักจะบ่นว่า คนฝั่งธนเป็นลูกเมียน้อย ความเจริญอยู่ฝั่งกรุงเทพฯ จึงต้องการสร้างความเท่าเทียม ไม่อยากเลือกที่รักมักที่ชัง ว่าตรงนี้ของกรุงเทพฯ ตรงนี้ฝั่งธน เพราะทั้งหมดคือกรุงเทพฯ เหมือนกัน จะต้องดูแลปัญหาให้ทั่วถึง
และเมื่อวานไปดูคลองประเวศบุรีรมย์ ก็อยากจะสร้างมาตรฐานเรื่องคลองให้ใสสะอาด และอยากจะทำตลาดริมน้ำแบบคลองลัดมะยม จะให้มาดูตัวอย่างจากที่นี่ และถ้าหากสามารถทำได้ในพื้นที่อื่น ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่พี่น้องประชาชนริมคลองจะสามารถทำมาค้าขายเดินทางได้สะดวก จากการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ประชาชนก็จะสามารถมาเที่ยวคลองสวยๆ ได้
จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ได้เดินทางต่อไปยังชุมชนสุภาพงษ์ เขตพระโขนง ได้ขึ้นรถหาเสียง พร้อมด้วยส.ก.เขตพระโขนง เบอร์ 2 นางสาวพชญา ปรีฎาพาก ไปตามถนนในชุมชนสุภาพงษ์ เขตพระโขนง โดยได้แวะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและผู้นำชุมชน ซึ่งพื้นที่นี้ถือว่าเป็นชุมชนสีขาว ไม่มีสิ่งเสพติด ทุกคนในชุมชนรู้จักหน้าที่ของตัวเอง มีพื้นที่ที่จะสามารถรวมคนในชุมชนทำกิจกรรมต่างๆ เป็นชุมชนที่มีการพัฒนาทุกด้าน ทั้งเรื่องความสะอาด ทุกบ้านสะอาดเรียบร้อย ในหมู่บ้านเล็กๆ ปลูกพืชผักสวนครัวทานเอง มีศูนย์กลางการเรียนรู้ และมีการแบ่งปันกันในชุมชนด้วย ดีใจที่วันนี้พล.ต.อ.อัศวินมาเยี่ยมเยียน ชาวชุมชนยินดีต้อนรับ และพร้อมที่จะสนับสนุนเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ ต่อแน่นอน
โดย พล.พ.ต.อัศวิน ได้กล่าวชื่นชมว่า เป็นชุมชนที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง และชอบโครงการพืชผักสวนครัวของที่นี่มากเป็นพิเศษ และอยากจะให้ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนต้นแบบ ให้ที่อื่นๆ ทำตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อยากให้คนอื่นได้รับรู้สิ่งดีๆ ในกรุงเทพฯ ที่ยังมีอีกเยอะ หากได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯอีก ทางผู้สมัคร ส.ก. และตนเอง ก็จะพยายามทำงานให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีมีสุขให้ได้ เพราะตอนสมัยเป็นผู้ว่าฯ ตนก็ได้มาดูพื้นที่และแก้ปัญหาให้หลายอย่าง
ด้าน เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษก กทม.หนึ่งในทีมงานได้กล่าวกับพี่น้องในชุมชนว่า พื้นที่ตรงนี้อยากจะผลักดันให้มีโรงพยาบาลสี่มุมเมือง ที่ทุกคนในชุมชนจะได้ไม่ต้องเดินทางเข้าไปโรงพยาบาลในเมือง สนับสนุนเรื่องการศึกษาให้เด็กในชุมชน และการประกอบอาชีพ และบอกด้วยว่า พล.ต.อ.อัศวิน เป็นคนรู้จริง ทำจริง ผลงานจับต้องได้ นโยบายสามารถสานต่อ ทำต่อได้ทันที ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เลือกเบอร์ 6 ทำต่อได้ทันที
ต่อมาพล.ต.อ.อัศวิน พร้อมผู้สมัคร ส.ก.เขตบางคอแหลม หมายเลข 5 นายปรุงศักดิ์ เชาวน์ชาติ ได้ลงพื้นที่มัสยิด อัล-อะติ๊ก เขตบางคอแหลม เดินไปในชุมชนเพื่อทักทายและขอคะแนนเสียงจากพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ ได้พบกับผู้นำชุมชนและประชาชนที่มารอให้กำลังใจ และได้กล่าวอวยพรพี่น้องมุสลิมที่กำลังปฏิบัติศาสนกิจ ถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอนว่า “ขอความสันติสุข ความเมตตาปราณี และความเป็นสิริมงคลจากพระผู้เป็นเจ้า จงประสบแด่ทุกท่าน เนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอนนี้ ผมขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดประทานให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพพลานามัย แข็งแรงสมบูรณ์ สามารถปฏิบัติศาสนกิจ ในเดือนอันประเสริฐนี้ได้อย่างสมบูรณ์”
และได้พูดกับพี่น้องในชุมชนว่า “ช่วงโควิดผมก็ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้รับวัคซีนมากที่สุด และเหตุผลที่มาสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. เพราะยังมีงานค้างคาอยู่ ที่ยังทำไม่จบ ถ้าทำอะไรไม่จบ ผมไม่สบายใจ ผมไม่ได้ยึดติดกับอำนาจ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ชีวิตส่วนตัวผมพอเพียงแล้ว รับราชการจนเกษียณ จนได้ยศสูงสุดแล้ว ชื่อเสียงก็พอมี ไม่เป็นที่รังเกียจเดียจฉัน ผมมาทำงานในกรุงเทพฯ 5 ปีกว่า และจุดที่ยืนยันได้ว่า ไม่มีสิ่งเหล่านี้แน่นอน คือ เรื่องของการทุจริต ไม่มีแน่นอน เพราะเราไม่ทำเรื่องผิดกฎหมาย เรื่องผิดระเบียบ ไม่ทำแน่นอน…แต่เรื่องการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน “อัศวิน”ทำแน่นอน!!!
และเมื่อวานไปดูคลองประเวศบุรีรมย์ ก็อยากจะสร้างมาตรฐานเรื่องคลองให้ใสสะอาด และอยากจะทำตลาดริมน้ำแบบคลองลัดมะยม จะให้มาดูตัวอย่างจากที่นี่ และถ้าหากสามารถทำได้ในพื้นที่อื่น ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่พี่น้องประชาชนริมคลองจะสามารถทำมาค้าขายเดินทางได้สะดวก จากการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ประชาชนก็จะสามารถมาเที่ยวคลองสวยๆ ได้
จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ได้เดินทางต่อไปยังชุมชนสุภาพงษ์ เขตพระโขนง ได้ขึ้นรถหาเสียง พร้อมด้วยส.ก.เขตพระโขนง เบอร์ 2 นางสาวพชญา ปรีฎาพาก ไปตามถนนในชุมชนสุภาพงษ์ เขตพระโขนง โดยได้แวะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและผู้นำชุมชน ซึ่งพื้นที่นี้ถือว่าเป็นชุมชนสีขาว ไม่มีสิ่งเสพติด ทุกคนในชุมชนรู้จักหน้าที่ของตัวเอง มีพื้นที่ที่จะสามารถรวมคนในชุมชนทำกิจกรรมต่างๆ เป็นชุมชนที่มีการพัฒนาทุกด้าน ทั้งเรื่องความสะอาด ทุกบ้านสะอาดเรียบร้อย ในหมู่บ้านเล็กๆ ปลูกพืชผักสวนครัวทานเอง มีศูนย์กลางการเรียนรู้ และมีการแบ่งปันกันในชุมชนด้วย ดีใจที่วันนี้พล.ต.อ.อัศวินมาเยี่ยมเยียน ชาวชุมชนยินดีต้อนรับ และพร้อมที่จะสนับสนุนเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ ต่อแน่นอน
โดย พล.พ.ต.อัศวิน ได้กล่าวชื่นชมว่า เป็นชุมชนที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง และชอบโครงการพืชผักสวนครัวของที่นี่มากเป็นพิเศษ และอยากจะให้ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนต้นแบบ ให้ที่อื่นๆ ทำตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อยากให้คนอื่นได้รับรู้สิ่งดีๆ ในกรุงเทพฯ ที่ยังมีอีกเยอะ หากได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯอีก ทางผู้สมัคร ส.ก. และตนเอง ก็จะพยายามทำงานให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีมีสุขให้ได้ เพราะตอนสมัยเป็นผู้ว่าฯ ตนก็ได้มาดูพื้นที่และแก้ปัญหาให้หลายอย่าง
ด้าน เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษก กทม.หนึ่งในทีมงานได้กล่าวกับพี่น้องในชุมชนว่า พื้นที่ตรงนี้อยากจะผลักดันให้มีโรงพยาบาลสี่มุมเมือง ที่ทุกคนในชุมชนจะได้ไม่ต้องเดินทางเข้าไปโรงพยาบาลในเมือง สนับสนุนเรื่องการศึกษาให้เด็กในชุมชน และการประกอบอาชีพ และบอกด้วยว่า พล.ต.อ.อัศวิน เป็นคนรู้จริง ทำจริง ผลงานจับต้องได้ นโยบายสามารถสานต่อ ทำต่อได้ทันที ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เลือกเบอร์ 6 ทำต่อได้ทันที
ต่อมาพล.ต.อ.อัศวิน พร้อมผู้สมัคร ส.ก.เขตบางคอแหลม หมายเลข 5 นายปรุงศักดิ์ เชาวน์ชาติ ได้ลงพื้นที่มัสยิด อัล-อะติ๊ก เขตบางคอแหลม เดินไปในชุมชนเพื่อทักทายและขอคะแนนเสียงจากพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ ได้พบกับผู้นำชุมชนและประชาชนที่มารอให้กำลังใจ และได้กล่าวอวยพรพี่น้องมุสลิมที่กำลังปฏิบัติศาสนกิจ ถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอนว่า “ขอความสันติสุข ความเมตตาปราณี และความเป็นสิริมงคลจากพระผู้เป็นเจ้า จงประสบแด่ทุกท่าน เนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอนนี้ ผมขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดประทานให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพพลานามัย แข็งแรงสมบูรณ์ สามารถปฏิบัติศาสนกิจ ในเดือนอันประเสริฐนี้ได้อย่างสมบูรณ์”
และได้พูดกับพี่น้องในชุมชนว่า “ช่วงโควิดผมก็ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้รับวัคซีนมากที่สุด และเหตุผลที่มาสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. เพราะยังมีงานค้างคาอยู่ ที่ยังทำไม่จบ ถ้าทำอะไรไม่จบ ผมไม่สบายใจ ผมไม่ได้ยึดติดกับอำนาจ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ชีวิตส่วนตัวผมพอเพียงแล้ว รับราชการจนเกษียณ จนได้ยศสูงสุดแล้ว ชื่อเสียงก็พอมี ไม่เป็นที่รังเกียจเดียจฉัน ผมมาทำงานในกรุงเทพฯ 5 ปีกว่า และจุดที่ยืนยันได้ว่า ไม่มีสิ่งเหล่านี้แน่นอน คือ เรื่องของการทุจริต ไม่มีแน่นอน เพราะเราไม่ทำเรื่องผิดกฎหมาย เรื่องผิดระเบียบ ไม่ทำแน่นอน…แต่เรื่องการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน “อัศวิน”ทำแน่นอน!!!