ภาพรวมสถานการณ์ฝุ่นดีขึ้น ทั่วไทยส่วนใหญ่อากาศดี ยกเว้น 6 จังหวัดที่ยังเกินมาตรฐานติดโซนส้มเริ่มกระทบสุขภาพ โดย PM 2.5 สูงสุดอยู่ที่หนองคาย และ PM 10 สูงสุดที่สระบุรีเจ้าเก่า ขณะอุตุฯชี้ 11-14 มี.ค.ร้อนขึ้น อาจมีฝนบางแห่ง 15-20 มี.ค. พายุฤดูร้อน ลมแรง กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่กทม.และปริมณฑล วันที่ 11 มี.ค.65 เวลา 07.00 น. พบว่าเช้านี้กทม.และปริมณฑลอากาศดี โดยคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงดีมาก ตรวจพบค่าฝุ่น 2.5 อยู่ระหว่าง 17-42 ไมโครกรัมฯไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานในทุกพื้นที่ (ค่ามาตรฐาน PM 2.5 อยู่ที่ 50 ไมโครกรัมฯ) ขณะที่ทั่วไทยภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี มีปัญหาเรื่องฝุ่นในบางพื้นที่ โดยภาคเหนือ ค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน 1 พื้นที่ อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) คือที่ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 60 ไมโครกรัมฯ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบมี 4 พื้นที่ที่ค่าฝุ่น 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยสูงสุดที่ ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย 62 ไมโครกรัมฯ ตามด้วย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น, ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา, ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ภาคกลาง พบค่า PM 10 เกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) 1 พื้นที่ เจ้าประจำคือ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี 130 ไมโครกรัมฯ (ค่ามาตรฐาน PM 10 อยู่ที่ 120 ไมโครกรัมฯ) สำหรับสภาพอากาศเช้านี้ สำนักการระบายน้ำกทม. รายงานเมื่อเวลา 07.00 น. พื้นที่ กทม. ไม่พบกลุ่มฝน /อุณหภุมิที่สำนักการระบายน้ำ 27 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 90% ด้านเพจสมควร ต้นจาน กรมอุตุนิยมวิทยา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ "...11 – 14 มี.ค.65 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ประกอบกับยังมีใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อยลงในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 15-20 มี.ค. 65 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ที่เข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง บางพื้นที่ รวมทั้งอาจจะมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่าที่จะเกิดขึนได้ ยังต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในระยะนี้ (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าใหม่เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ)"