วันที่ 27 ต.ค.64 ณ ห้องศรีลำดวน 1 โรงแรมศรีลำดวน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ เรื่อง การจัดทำแผนพัฒนากำลังคนจังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. 2565-2570 โดยนางฐพัชร์รดา ธนินท์จิรานนท์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษและหัวหน้าส่วนภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว ประธาน YEC ประธานคณะกรรมการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ผู้ทรงคุณวุฒิคณะอนุกรรมการ กพร.ปจ.และภาคส่วนอื่น ร่วมสัมมนา
การจัดทำแผนพัฒนากำลังคนจังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. 2565-2570 มีคณะทำงานจัดทำแผนพัฒนากำลังคน 4 คณะ ประกอบด้วยภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม ภาคท่องเที่ยวและบริการ และกลุ่มประกอบอาชีพอิสระ/ผลิตภัณฑ์ OTOP/วิสาหกิจชุมชน พร้อมทั้งภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม โดยมี ดร.ชูวิทย์ นาเพีย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เป็นวิทยากรหลักในการระดมสมองวิเคราะห์สภาพปัญหา และความต้องการพัฒนากำลังคนสู่การจัดทำแผนพัฒนากำลังคนจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัดและความต้องการแรงงานในพื้นที่
นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนากำลังคน เครือข่ายการพัฒนาแรงงาน ต้องมีการบูรณาการ 3 P คือ Product People และ Place เพื่อนำสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ และการพัฒนาแรงงาน ต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน และการสร้างรายได้ให้มากขึ้นกับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ และควรเน้นการสร้างผู้ประกอบการยุคใหม่
นางทัศนี ขจัดมลทิน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานศรีสะเกษ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.) กล่าวว่า กรอบเป้าหมายยุทธศาตร์การพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ มีเป้าหมาย 5 ยุทธศาสตร์ และยุทธศาสตร์ที่ 3 คือ จัดทำแผนพัฒนากำลังคน เพื่อรวบรวมข้อมูลการผลิตและพัฒนากำลังคนทั้งหลักสูตรระยะยาว ระยะกลาง และระยะสั้น การวิเคราะห์ความต้องการแรงงานแต่ละอาชีพในระดับประเทศ ภูมิภาค จังหวัด ในแต่ละ Supply Chain ของอุตสาหกรรมสำคัญ และการใช้ประโยชน์" แผนพัฒนากำลังคน"ของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง การขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการระดับชาติ (กพร.ปช.) มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน ซึ่งปัจจุบันพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้ได้รับมอบหมายเป็นประธาน กพร. ปช. มีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นรองประธาน และนายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นกรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายระดับชาติในการพัฒนากำลังคนของประเทศและการฝึกอาชีพให้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันทั้งในส่วนภาครัฐและภาคเอกชน ในระดับพื้นที่ จะมีคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.) มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานหรือผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อถ่ายทอดนโยบายการพัฒนาลงสู่พื้นที่ได้อย่างทั่วถึงและสอดคล้องตามความต้องการในพื้นที่
นางทัศนี ขจัดมลทิน ยังกล่าวต่อว่า การจัดโครงการสัมมนาครั้งนี้ เพื่อทบทวนแผนพัฒนากำลังคน ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ และความต้องการแรงงานในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ โครงสร้างเศรษฐกิจมี 3 ภาคส่วน คือ เกษตร อุตสาหกรรม และภาคบริการ และเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับภาคเกษตรเป็นหลัก และพัฒนากำลังคนภาคอุตสาหกรรม ภาคท่องเที่ยวและบริการ และกลุ่มประกอบอาชีพอิสระ ผลิตภัณฑ์ OTOP และวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เพียงพอทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และผลการพัฒนากำลังคนปี 2560-2564 จำนวน 156,541 คน และแผนฯ 2565-2570 ที่จะจัดทำนี้ เป็นโจทย์ท้าทายที่ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ความต้องการและการพัฒนา ตามหลักห่วงโซ่คุณค่า รองรับความต้องการแรงงาน ระยะ 5-10 ปี เพื่อให้สอดรับกับเศรษฐกิจดิจิทัล และจะได้รายงาน กพร.ปจ.และกพร.ปช.ต่อไป
นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รองผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนากำลังคน เครือข่ายการพัฒนาแรงงาน ต้องมีการบูรณาการ 3 P คือ Product People และ Place เพื่อนำสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ และการพัฒนาแรงงาน ต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน และการสร้างรายได้ให้มากขึ้นกับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ และควรเน้นการสร้างผู้ประกอบการยุคใหม่
นางทัศนี ขจัดมลทิน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานศรีสะเกษ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.) กล่าวว่า กรอบเป้าหมายยุทธศาตร์การพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ มีเป้าหมาย 5 ยุทธศาสตร์ และยุทธศาสตร์ที่ 3 คือ จัดทำแผนพัฒนากำลังคน เพื่อรวบรวมข้อมูลการผลิตและพัฒนากำลังคนทั้งหลักสูตรระยะยาว ระยะกลาง และระยะสั้น การวิเคราะห์ความต้องการแรงงานแต่ละอาชีพในระดับประเทศ ภูมิภาค จังหวัด ในแต่ละ Supply Chain ของอุตสาหกรรมสำคัญ และการใช้ประโยชน์" แผนพัฒนากำลังคน"ของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง การขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการระดับชาติ (กพร.ปช.) มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน ซึ่งปัจจุบันพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้ได้รับมอบหมายเป็นประธาน กพร. ปช. มีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นรองประธาน และนายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นกรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายระดับชาติในการพัฒนากำลังคนของประเทศและการฝึกอาชีพให้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันทั้งในส่วนภาครัฐและภาคเอกชน ในระดับพื้นที่ จะมีคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.) มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานหรือผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อถ่ายทอดนโยบายการพัฒนาลงสู่พื้นที่ได้อย่างทั่วถึงและสอดคล้องตามความต้องการในพื้นที่
นางทัศนี ขจัดมลทิน ยังกล่าวต่อว่า การจัดโครงการสัมมนาครั้งนี้ เพื่อทบทวนแผนพัฒนากำลังคน ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ และความต้องการแรงงานในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ โครงสร้างเศรษฐกิจมี 3 ภาคส่วน คือ เกษตร อุตสาหกรรม และภาคบริการ และเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับภาคเกษตรเป็นหลัก และพัฒนากำลังคนภาคอุตสาหกรรม ภาคท่องเที่ยวและบริการ และกลุ่มประกอบอาชีพอิสระ ผลิตภัณฑ์ OTOP และวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้เพียงพอทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และผลการพัฒนากำลังคนปี 2560-2564 จำนวน 156,541 คน และแผนฯ 2565-2570 ที่จะจัดทำนี้ เป็นโจทย์ท้าทายที่ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ความต้องการและการพัฒนา ตามหลักห่วงโซ่คุณค่า รองรับความต้องการแรงงาน ระยะ 5-10 ปี เพื่อให้สอดรับกับเศรษฐกิจดิจิทัล และจะได้รายงาน กพร.ปจ.และกพร.ปช.ต่อไป