สมาคมศูนย์การค้าไทย ชูวิสัยทัศน์ Shopping Center 4.0 ตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคดิ จิทัล เสริมแกร่งให้ ประเทศไทยคงความเป็นที่หนึ่ งในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศภาพรวมการลงทุนโครงก ารต่างๆ ระดับเมกะโปรเจ็กต์ หวังสร้างศูนย์การค้าที่จะเป็นแ ลนด์มาร์กระดับโลก พร้อมตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่รวมศู นย์การค้าในกลุ่มสมาชิกฯ ภายในปี62 เป็น 9.1 ล้านตร.ม. ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 57,000 ล้านบาท นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย หรือ TSCA เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายของสมาคมศูนย์ การค้าไทยในปีนี้ทางสมาคมฯจะร่วมกันพลิกโฉมธุรกิจค้ าปลีกสู่ยุคของการเป็น Shopping Center 4.0 เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุ คดิจิทัลที่เปลี่ยนไป พร้อมผลักดันให้กลุ่มสมาชิกฯมีการเติบโตที่ร้อยละ 4-5 ในปี 2560 โดยมีทิศทางดำเนินการบน 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) Customer-Centric ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ด้วยการออกแบบศูนย์การค้าและปรั บรูปแบบการให้บริการให้ทันไลฟ์ส ไตล์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลทุ กเพศทุกวัยที่เปลี่ยนไปอย่ างรวดเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภค และความคาดหวังในการมาศูนย์การค้าแตกต่ างไปจากเดิม อาทิ การออกแบบและเพิ่มบริการในศูนย์ การค้าสำหรับกลุ่มผู้สูงวัย , มีพื้นที่ Co-working Space, บริการสำหรับครอบครัวยุคใหม่, บริการตอบโจทย์คนรักสุขภาพและชอ บเล่นกีฬา, บริการสำหรับสัตว์เลี้ยง แม้กระทั่งการบริการที่ตอบโจทย์ การเดินทางมาที่ศูนย์การค้ าของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถจักรยาน มีจุดขึ้นรถสาธารณะ และมีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ส่วน 2) Omni channel เน้นทำการตลาดแบบผสมผสานทุกช่อง ทาง เชื่อมประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้ รอยต่อ และตอบสนองความต้องการแบบ personalized โดยใช้ข้อมูลจากฐาน big data ของลูกค้า เช่น The 1 Card, M Card, Viz Card เพื่อทำการตลาดแบบเจาะกลุ่ม แบ่งตามพฤติกรรมการซื้อ ไลฟ์สไตล์ ความชอบ สามารถจับกลุ่มทาร์เก็ตที่ ตรงเป้าหมาย แม่นยำมากกว่ าการทำการตลาดแบบหว่านแห รวมทั้งศูนย์การค้ามีระบบที่รอง รับการจ่ายเงินของ Cashless Society สังคมไร้เงินสด พัฒนาบริการที่รองรับการใช้จ่าย ผ่านมือถือ และบัตรแทนเงินสด 3) Build partnership สร้างพันธมิตร เปลี่ยนคู่แข่งให้กลายเป็นคู่ค้ า เพราะคู่แข่งที่ท้าทายที่สุ ดในยุคนี้คือ ผู้บริโภค โดยศูนย์การค้าจะผนึกกำลังกันร่ วมสนับสนุนนโยบายต่างๆของภาครัฐ และส่งเสริมให้เกิดย่านช้อปปิ้ง ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ไม่เพียงเท่านี้ เรายังช่วยกันลงทุนพัฒนาโปรเจ็ก ต์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และร่วมกันสร้างไลฟ์สไตล์แลนด์ม าร์กใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย โดยอภิมหาโครงการสุดยิ่งใหญ่ที่ จะสร้างปรากฏการณ์แลนด์มาร์ กระดับโลกให้ประเทศไทย ด้วย 2 โครงการยักษ์ใหญ่ที่จะเปิดให้ บริการในปี 2561 ได้แก่ เซ็นทรัล ภูเก็ต และไอคอนสยาม ทั้งนี้ ในฐานะสมาคมศูนย์การค้าไทย กลุ่มสมาชิกยังพร้อมร่วมพัฒนาปร ะเทศด้วยการสนับสนุนภาครัฐ โดยการร่วมกันลงทุนในจังหวัดต่า งๆ ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงสร้า งพื้นฐานเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ ทั้งโครงการมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูงในจังหวัดหลั ก อาทิ โครงการก่อสร้างระบบคมนาคมสู่จั งหวัดนครราชสีมาของภาครัฐเพื่ อชูโคราชเป็นเมืองศูนย์ กลางของภาคอีสาน ทางสมาชิกจึงได้ลงทุนพัฒนาศูนย์ การค้าต่างๆ ได้แก่ การเปิดตัวของโครงการ เซ็นทรัลพลาซา โคราช, Terminal 21 โคราช และ การขยายพื้นที่เพิ่มเติมของ เดอะมอลล์ โคราช ที่จะช่วยเสริมการเป็นเมือง gateway ของอีสานให้โคราช ซึ่งการลงทุนของทั้ง 3 โครงการในโคราช จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวั ด สร้างงาน สร้างอาชีพ ช่วยดึงคนกลับสู่ท้องถิ่น อีกทั้งช่วยดัน SMEs ท้องถิ่นให้เกิดรายได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้ลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิ จพิเศษ EEC ได้แก่ ชลบุรี (พัทยา) และ ระยอง โดยมีโครงการ อาทิTerminal21 พัทยา, เซ็นทรัล มารีนา และเซ็นทรัลพลาซา ระยอง รวมไปถึงการลงทุนในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ย่านบางนา-สุวรรณภูมิ ที่เชื่อมต่อกับเขต EEC ได้แก่ โครงการ เมกาซิตี้, ซีคอนซิตี้, แบงค็อกมอลล์ และการปรับโฉมใหม่ของ เซ็นทรัลพลาซา บางนา โดยโครงการเหล่านี้จะช่วยเสริมค วามสมบูรณ์ และรองรับเศรษฐกิจที่จะเติ บโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต พร้อมทั้งตอบรับไลฟ์สไตล์ยุ คใหม่ให้ย่านดังกล่าวได้อย่ างสมบูรณ์ ภายในปี 2562 สมาชิกสมาคม TSCA จะมีพื้นที่ รวมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9.1 ล้านตร.ม. จากศูนย์การค้าของสมาคม รวม 107 แห่ง ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 57,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 8 ล้านตร.ม.