วันที่ 17 เม.ย.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.  โฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านบางขุนเทียน หมู่บ้านพิศาล 16 จำนวน 5 คน ว่าผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก โดยได้รับการตรวจจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 แต่ทางโรงพยาบาลกลับปฏิเสธการรักษาและให้กลับบ้าน ตอนนี้เวลาผ่านมา 3 วันแล้ว พยายามติดต่อที่ไหนก็แจ้งแต่ว่า “เตียงเต็ม” ซึ่งผู้ป่วย 4 ใน 5 คน เป็น “ผู้ป่วยที่มีอาการ” (โดยในบ้านอยู่กันทั้งหมด 7 คน และมี 2 รายที่เป็นผู้สูงอายุ) ซึ่งตามแนวทางปฏิบัติแล้วจะต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล สิ่งที่อันตรายที่สุดของโควิด คือ การที่มีผู้ติดเชื้อมาก มากจนเกินอัตรากำลังที่โรงพยาบาลจะรับได้ ซึ่งจะทำให้ระบบสาธารณสุขล่มสลาย ถามว่า รัฐบาลไม่ได้เตรียมการป้องกันภยันตรายนี้หรือ?? “จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ชวนให้ตั้งคำถามเหลือเกินว่า ภาครัฐไม่ได้เตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเพียงพอ สถานการณ์ที่เป็นอยู่นั้นไม่ได้เกินความคาดหมายของแพทย์และนักวิชาการแต่อย่างใด เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าโควิดในระลอก 2 นั้นยังไม่จบ และจะต้องมาอีกเป็นระลอกที่ 3 แน่ๆ และคลื่นลูกที่ 3 นี้จะใหญ่กว่าเดิม แต่การจัดสรรทรัพยากรบุคคล ทรัพยากรเตียง รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ กลับไม่ได้เตรียมความให้พร้อมเลย ทำเสมือนว่าเพิ่งจะมาเริ่มเตรียมเริ่มทำเอาตอนที่ระบาดระลอก 3 นี้” นายณัฐชา ย้ำถามรัฐบาลว่า หรือถึงเวลาแล้วที่เราควรมาคุยอย่างจริงจังว่าจะเปลี่ยนนโยบายในการรับผู้ป่วยโควิด จากแต่เดิมคือ “ถ้าติดเชื้อโควิดห้ามกักตัวที่บ้าน ให้ไปโรงพยาบาลเท่านั้น” เป็น “ติดเชื้อโควิดให้กักตัวที่บ้าน ถ้าอาการหนักค่อยมาโรงพยาบาล” เพื่อให้ทรัพยากรระบบสาธารณสุขมีเพียงพอจริงๆ ไม่เช่นนั้นแล้วไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้ ผู้ที่มีอาการจะไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้เลย เพราะผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้แม้ไม่มีอาการก็ต้องไปกักตัวที่โรงพยาบาลทั้งหมดจนเตียงเต็มหมดแล้ว จึงอยากขอความชัดเจนจากรัฐบาลในประเด็นดังกล่าวด้วย