“หมอธี” เผยปีกว่าๆ ปฏิรูปการศึกษาของศธ.ในภูมิภาค ทำผู้ว่าฯ หลายจังหวัดบ่นอยากลาออกจากบอร์ด กศจ. เบื่อนั่งประชุมโยกย้าย สั่ง สป.ศธ.จัดตัวชี้วัดการปฏิบัติหน้าที่ของ ผอ.เขตพื้นที่ฯ หากไม่ให้ความร่วมมือชง “บิ๊กสพฐ.” ย้ายออกทันที
วันที่ 21 ส.ค.60 ที่ รร.อัสสัมชัญนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวระหว่างเปิดการประชุมมอบนโยบายคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (อกศจ.) และบุคลากรสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) นครราชสีมา ตอนหนึ่งว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการ โดยการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค เพียงเวลา 1 ปีกว่า มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นโรคซึมเศร้า หลายคนอยากลาออกจากการเป็นประธานบอร์ด กศจ. เพราะเบื่อหน่ายที่ต้องมาประชุมโยกย้าย
ดังนั้น จะมีแก้ไขอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายจากเดิมที่เป็นของ กศจ. ก็จะให้เป็นของ อกศจ.ด้านการบริหารงานบุคคล แทน โดยมี ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขตในจังหวัดเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง เพื่อให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ไม่ต้องเสนอเข้า กศจ.อีก
ซึ่ง ศธ.ได้เสนอขอแก้ไขคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2559 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ซึ่ง ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตอบว่าเป็นอำนาจของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ที่จะออกคำสั่งได้ เพื่อเป็นการปลดล็อค ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
“ทาง กศจ.ได้สะท้อนปัญหาการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากเขตพื้นที่ฯ ทำให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปด้วยความล่าช้า ดังนั้น สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.)จะต้องไปกำหนดตัวชี้วัดในการปฏิบัติหน้าที่ของ ผอ.เขตพื้นที่ฯ และเร็ว ๆ นี้จะมีการสอบคัดเลือก ผอ.เขตพื้นที่ฯ ที่ว่างอยู่ 110 อัตรา ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือก จะต้องคัดเลือกคนให้ตรงกับตัวชี้วัด หาก ผอ.เขตพื้นที่ฯ ไม่ให้ความร่วมมือจะเสนอให้ เลขาธิการ กพฐ. ย้ายออกจากพื้นที่”
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวและว่า นอกจากนั้น ยังมีเสียงสะท้อนเกี่ยวกับหนังสือเวียนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่สร้างความสับสนให้แก่ผู้ปฏิบัติ จึงขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ไปปรับปรุงวิธีการออกหนังสือเวียน ให้เข้าใจง่าย ชัดเจน และเป็นแนวทางเดียวกัน
ดังนั้น จะมีแก้ไขอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายจากเดิมที่เป็นของ กศจ. ก็จะให้เป็นของ อกศจ.ด้านการบริหารงานบุคคล แทน โดยมี ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทุกเขตในจังหวัดเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง เพื่อให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ไม่ต้องเสนอเข้า กศจ.อีก
ซึ่ง ศธ.ได้เสนอขอแก้ไขคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2559 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ซึ่ง ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตอบว่าเป็นอำนาจของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ที่จะออกคำสั่งได้ เพื่อเป็นการปลดล็อค ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
“ทาง กศจ.ได้สะท้อนปัญหาการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากเขตพื้นที่ฯ ทำให้การขับเคลื่อนงานเป็นไปด้วยความล่าช้า ดังนั้น สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.)จะต้องไปกำหนดตัวชี้วัดในการปฏิบัติหน้าที่ของ ผอ.เขตพื้นที่ฯ และเร็ว ๆ นี้จะมีการสอบคัดเลือก ผอ.เขตพื้นที่ฯ ที่ว่างอยู่ 110 อัตรา ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือก จะต้องคัดเลือกคนให้ตรงกับตัวชี้วัด หาก ผอ.เขตพื้นที่ฯ ไม่ให้ความร่วมมือจะเสนอให้ เลขาธิการ กพฐ. ย้ายออกจากพื้นที่”
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวและว่า นอกจากนั้น ยังมีเสียงสะท้อนเกี่ยวกับหนังสือเวียนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่สร้างความสับสนให้แก่ผู้ปฏิบัติ จึงขอให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ไปปรับปรุงวิธีการออกหนังสือเวียน ให้เข้าใจง่าย ชัดเจน และเป็นแนวทางเดียวกัน