เสือตัวที่ 6 กระบวนการบ่มเพาะแนวคิดความเห็นต่างจากคนส่วนใหญ่ของรัฐไทยในกลุ่มเด็กและเยาวชนในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานศึกษา เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ละมีความต่อเนื่องตลอดระยะเวลาของการต่อสู้ของขบวนการแนวคิดสุดโต่งในพื้นที่ปลายด้ามขวานกับรัฐ เพื่อดำรงความต่อเนื่องของแนวคิดแบ่งแยกดินแดนของขบวนการห่งนี้ให้สืบทอดไปยังคนรุ่นใหม่ต่อไปได้ และช่องว่างในการสอดแทรกเข้ามาของผู้ไม่หวังดี เพื่อเข้ามาปลุกระดม บ่มเพาะแนวคิดสุดโต่ง สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างเยาวชนในพื้นที่กับรัฐนั้น ยังเอื้ออำนวยให้กลุ่มนักจิตวิทยาของขบวนการ สามารถสอดแทรกเข้ามาบ่มเพาะแนวคิดแปลกแยกให้เกิดกับเยาวชนได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สถานศึกษาหลายแห่ง ยังจำเป็นที่จะต้องมีบ้านพักเพื่อให้นักเรียนส่วนหนึ่งได้อยู่ประจำที่สถานศึกษา และคนกลุ่มนั้น เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ในการบ่มเพาะแนวคิดสุดโต่งให้เกิดขึ้น ด้วยเยาวชนที่อยู่ประจำในสถานศึกษาหลายแห่ง มีการเรียนรู้หลักคำสอนทางศาสนาได้มากกว่าเด็กไป-กลับ ซึ่งเป็นไปได้สูงที่จะเป็นช่องว่างให้ผู้ไม่หวังดี สามารถสอดแทรกเข้ามาอบรมบ่มเพาะความเห็นต่างให้เกิดขึ้นกับกลุ่มนักเรียนประจำได้มากขึ้น โดยเฉพาะในยามวิกาลที่เจ้าหน้าที่รัฐ ขาดโอกาสในการเข้าไปสอดส่องดูแลการเรียนการสอนหลักการทางศาสนาในยามวิกาล ของครูสอนศาสนาบางคนที่อาจสอดแทรก เจือปนแนวคิดเห็นต่างให้เกิดขึ้นกับเยาวชนเหล่านี้ได้ ทั้งนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐก็ตระหนักดีในช่องว่างเหล่านั้นดี และหากิจกรรมที่เป็นโอกาส เพื่อให้สามารถเข้าถึงสถานศึกษาตลอดจนที่พักประจำของนักเรียนในสถานศึกษาแต่ละแห่งอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การเข้ามาเกาะติดเพื่อสร้างกิจกรรมของหน่วยงานด้านความมั่นคง ก็สามารถกระทำได้ในเวลาเรียนตามปกติ หากยังไม่สามารถเกาะติดการเรียนการสอนของนักเรียนประจำในยามวิกาลได้ นอกจากนั้น ปรากฏการณ์ของกระบวนการบ่มเพาะแนวคิดที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ ทั้งในสถานศึกษา โดยส่วนใหญ่ในพื้นที่ ล้วนมีที่มาจากการเป็นสถานที่สำหรับการเรียนการสอนเฉพาะหลักศาสนาอิสลามที่เรียกกันว่าปอเนาะมาก่อน จึงทำให้แนวคิดการปรับตัวของสถานศึกษาบางแห่งโดยเฉพาะสถานศึกษาขนาดเล็ก ยังไม่สามารถยกระดับคุณภาพการศึกษาสายสามัญ ให้ทัดเทียมสถานศึกษาขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ หลายแห่งจึงคงเน้นการเรียนการสอนหลักศาสนาเป็นหลักแล้วเสริมวิชาสายสามัญ เพื่อให้เข้าเกณฑ์การได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายหัวของนักเรียนจากกระทรวงศึกษาธิการได้ รวมทั้งสถานศึกษาหลายแห่ง ยังไม่สามารถเชื่อมโยงการสนับสนุนเกื้อกูลของคนในชุมชนรอบสถานศึกษาได้ดีเท่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้สถานศึกษาต้องแบกรับภาระของนักเรียนบางคนที่ไม่มีความมุ่งมั่นในการเรียน ขาดวินัยในการใช้ชีวิต จึงต้องออกจากการเรียนกลางคัน จนเป็นช่องว่างให้กลุ่มแกนนำของขบวนการแบ่งแยกดินแดนปลายด้ามขวาน สามารถสอดแทรกเข้ามาแสวงประโยชน์จากเด็กที่ขาดเรียนหรือออกจากระบบการศึกษาเหล่านั้น ให้มีแนวคิดแปลกแยก และถูกดึงเข้ามาร่วมขบวนการต่อสู้กับรัฐได้ จากการติดตามและตรวจสอบงานด้านการข่าวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าวของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ปรากฏข้อมูลว่า มีเยาวชนส่วนหนึ่งหายไปจากระบบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาทั้งหญิงและชาย ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มีการเข้าไปพบปะกับครอบครัวของเยาวชนดังกล่าวที่มีการเก็งตัวไว้แล้วว่า มีแนวโน้มที่จะชักจูงและหลงเชื่อ คล้อยตามคำปลุกระดมได้ง่าย เพื่อชักจูงและชี้นำเข้าสู่ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ดังที่ปรากฏว่าการก่อเหตุหลายๆ ครั้ง ในห้วงที่ผ่านมา มีเยาวชนที่หายไปจากระบบการศึกษา ด้วยการขาดเรียนกลางคัน จากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการก่อเหตุในลักษณะเป็นส่วนชี้เป้า ดูต้นทาง โรบตะปูเรือใบขัดขวางการติดตามของเจ้าหน้าที่ จุดกองไฟ สร้างสถานการณ์ลวงให้เจ้าหน้าที่สับสน ไปจนถึงเข้าไปลอบวางระเบิดด้วยตนเองตามระดับของการเข้าร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้ และจากข้อมูลด้านการข่าว รวมทั้งจากผลการซักถามจากผู้ที่ถูกจับกุมหรือออกมาแสดงตนที่เคยปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง หรือ RKK พบว่า มีสถานศึกษาเอกชนสอนศาสนาอิสลามบางแห่งและสถานศึกษาปอเนาะบางแห่ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับ กลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยร่วมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลุ่มขบวนการนี้ ได้มีการสอดแทรกเข้าไปในสถานศึกษาบางแห่งอย่างแนบเนียนในลักษณะครูหรือผู้สอน และดำเนินการสอดแทรกการสอน ที่เจือปนไปด้วยการบ่มเพาะแนวความคิดแปลกแยก แตกต่างจากคนทั่วไปของประเทศ เพื่อให้เกิดแนวคิดในการเข้าร่วมก่อความไม่สงบ โดยการสอดแทรกเข้าไปปลูกฝังแนวความคิด ความเชื่อที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ให้กับเยาวชนทั้งในสถานศึกษา และที่ออกนอกระบบการศึกษาดังกล่าวข้างต้น ทำให้กลุ่มแกนนำขบวนการแห่งนี้ สามารถสร้างเปอมูดอ (เยาวชนจัดตั้ง) เพื่อสนับสนุนและสืบทอดแนวความคิดในการต่อสู้ด้วยความรุนแรงภายใต้ความเชื่อและศรัทธาใน "สงครามญีฮาด" เหล่านี้ คือ การดำรงอยู่ของการต่อสู้กับรัฐอย่างไม่มีวันจบ ตราบใดที่หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐ ยังไม่ตระหนักในยุทธศาสตร์การสร้างคนรุ่นใหม่ของขบวนการร้ายแห่งนี้ ด้วยการสอดแทรกแนวคิดแปลกแยกให้เกิดขึ้นกับเยาวชนในพื้นที่ ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ก็ยังคงมีอยู่ต่อไปไม่สิ้นสุด