เสือตัวที่ 6 หลายครั้งหลายหน ที่หลังจากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐเพื่อพยายามปกป้องพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้ให้รอดพ้นจากการถูกทำร้ายอย่างไม่เป็นธรรม และเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และ เสมอภาคของคนไทยทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มคนติดอาวุธหัวรุนแรงในขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่เจ้าหน้าที่รัฐได้ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เข้าปิดล้อมจับกุมหรือไล่ล่าบรรดากองกำลังติดอาวุธหรือบุคคลที่มีหมายจับของศาลอาญาในข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง และทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าปฏิบัติการตามหน้าที่ จะมีกลุ่มแนวร่วมของขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่แอบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มอาชีพต่างๆ เข้าปฏิบัติการตอบโต้การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในทำนองของการกระทำเกินกว่าเหตุหรือการกล่าวหาว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และครั้งล่าสุดในการปฏิบัติการที่กองกำลังทหาร-ตำรวจเข้าปิดล้อมตรวจค้นคนร้ายที่ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ที่การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ดำเนินการปิดล้อมจับกุมกลุ่มคนที่มีหมายจับของศาลอาญาตามการให้ข่าวของผู้หวังดีต่อชาติบ้านเมือง และมีการต่อสู้ขัดขืนการจับกุมดังกล่าว ตลอดจนมีการใช้อาวุธกราดยิงเจ้าหน้าที่จนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บไปถึง 2 นาย แม้เจ้าหน้าที่รัฐจะได้พยายามในการพูดคุยเพื่อให้มอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งยังตอบโต้ด้วยอาวุธต่อเจ้าหน้าที่ และในท้ายที่สุดคนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งก็ถูกวิสามัญอย่างสุดวิสัย หากแต่มีกระบวนการทำลายความชอบธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐครั้งนี้อีกเช่นเคย โดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และทำให้บ้านเรือนทรัพย์สินของประชาชนในที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายจากการถูกเพลิงลุกไหม้ และมีขบวนการปล่อยข่าวลือว่า การเผาบ้านหลังนั้น เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ การตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทำลายความชอบธรรมของรัฐครั้งนี้ เป็นการกระทำโดยแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่จะออกมาปฏิบัติการทุกครั้งที่ฝ่ายคนในขบวนการเกิดการเพลี้ยงพล้ำหรือสูญเสีย เพื่อทำลายความชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ ลดความน่าเชื่อถือของรัฐในสายตามประชาชนในท้องถิ่น ในขณะเดียวกันเป็นการปลุกปลอบขวัญคนในขบวนการร้ายแห่งนี้ให้คงความฮึกเหิมในการต่อสู้กับรัฐอยู่ต่อไป และแน่นอนว่า การปล่อยข่าวลือว่าการเผาบ้านหลังที่คนร้ายใช้หลบซ่อนและยิงใส่เจ้าหน้าที่รัฐนั้น เป็นวิธีการที่แนวร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้ ใช้ในการปฏิบัติการตอบโต้รัฐเพื่อทำลายความชอบธรรมของรัฐและเป็นการโต้กลับเพื่อสร้างความเสียหายให้รัฐเสมอมา ทั้งที่การเผาสถานที่เกิดเหตุนั้น เป็นการกล่าวหาที่ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะทำเช่นนั้น ในทางตรงข้าม การเก็บหลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุที่มีการวิสามัญคนร้ายนั้น น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่รัฐในการพิสูจน์ความจริงในชั้นสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรมมากกว่า ในขณะเดียวกัน กรณีศึกษาของการเผาบ้านหลังนั้น แนวร่วมขบวนการที่อยู่ในกลุ่มอาชีพสื่อสารมวลชนบางแห่ง ก็ยังช่วยให้ข่าวแก่มวลชนในทำนองให้น้ำหนักกับการกระทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่าเป็นการกระทำของคนร้ายเพื่อเปิดทางหนี และช่วยกระจายข่าวกลุ่มคนบางกลุ่มที่พยายามยัดเยียดการกระทำเกินกว่าเหตุว่ารัฐใช้กองกำลังกว่า 500 คน เพื่อบุกจับคนร้ายเพียงคนเดียว แต่ความเป็นจริงกองกำลังผสมทหาร-ตำรวจ สนธิกำลังประมาณ 60 คน หากแต่ในอีกแง่หนึ่ง สื่อมวลชนแหล่งนั้นไม่พยายามอย่างจริงจังเพื่อบ่งชี้ว่า บุคคลที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมจับกุมนั้น เป็นคนร้ายตามหมายจับของศาลอาญาจริงและคนร้ายกลุ่มนี้ยังต่อสู้ขัดขืน ใช้อาวุธต่อเจ้าหน้าที่จนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อระงับยับยั้งการก่อเหตุรุนแรงของคนกลุ่มนี้ต้องบาดเจ็บไปถึง 2 คน ในขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้พยายามออกมาให้ความจริงอีกแง่มุมหนึ่งว่า เป็นการเข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ โดยมีสายข่าวแจ้งเบาะแสว่า มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายเพื่อวางแผนเตรียมก่อเหตุขนาดใหญ่ในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน จึงได้สนธิกำลัง 3 ฝ่ายเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และได้ประสานผู้นำชุมชนได้รับทราบเพื่อร่วมเจรจากับกลุ่มคนร้าย และได้ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยเจ้าหน้าที่พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน และถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนระดมยิงใส่จน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงให้ผู้นำศาสนามาช่วยเจรจาอีกรอบกว่า 1 ชั่วโมงแต่ไม่เป็นผล หลังการเจรจาไม่เป็นผล ก็เกิดการปะทะกัน พบคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก ทราบชื่อคือ นายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ พบประวัติเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 6 หมาย นอกจากนี้ยังพบวัตถุพยานสำคัญในบ้านอีกหลายรายการ ส่วนคนในบ้านที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย ก็ถูกนำตัวไปเข้ากระบวนการซักถาม ล่าสุดยอมรับแล้วว่าทำหน้าที่นำรถไปรับผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาพักพิง เพื่อเตรียมก่อเหตุใหญ่ช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน จึงแสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ทำด้วยความโปร่งใสภายใต้การมีส่วนร่วมของผู้นำ 4 เสาหลัก โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ถูกคนร้ายใช้อาวุธยิงใส่จนบาดเจ็บไป 2 นาย จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง ดังนั้น การออกมาเคลื่อนไหวของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ควรดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพราะอาจตกเป็นแนวร่วมโดยไม่ได้ตั้งใจให้กับกลุ่มขบวนการที่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐได้รับความเสียหายได้ ทั้งอาจทำให้เจ้าหน้าที่รัฐทำหน้าที่เพื่อรักษาความสงบให้พี่น้องในพื้นที่ด้วยความลำบากมากขึ้น ซึ่งนั่น ล้วนเป็นปฏิบัติการของแนวร่วมขบวนการที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการต่อสู้กับรัฐ