บรรยากาศทางการเมืองในปีก “รัฐบาล” จำเป็นต้องปรับโหมดเพื่อเรียกความมั่นใจ กระชับทุกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยไว หลังจากที่ นโยบายหลักของรัฐบาล โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” ที่ต้องเดินหน้าขับเคลื่อนให้ได้ แม้จะยังไม่มีใครรู้ว่า “สุดทาง” จะอยู่ที่ใด ?


 การประชุมครม. เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2567  “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นำทีมแถลงข่าว หลังจากครม.มีมติให้ความเห็นชอบ ในหลักการโครงการแจกเงินหมื่น ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต  โดยรายล้อมด้วย แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาชาติ  ชาติไทยพัฒนา  ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น 


 เพราะไฮไลท์ในการประชุมครม. ครั้งนี้อยู่ที่  “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล และยังเป็นเจ้าของนโยบายแจกเงินหมื่นที่ได้หาเสียงเอาไว้ ต้องได้รับการสนับสนุนจาก พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด  ไม่เช่นนั้นแล้ว การฝ่าด่านแรกคือ พรรคร่วมรัฐบาล อาจกลายเป็น “เรื่องยาก” ที่ทำให้พรรคเพื่อไทย เดินหน้าผลักดันการแจกเงินหมื่นมีอันต้อง “สะดุด” จากคนกันเอง 


 ด้วยเหตุนี้ ก่อนการประชุมครม. วันที่ 23 เม.ย. ปรากฏว่า นายกฯ เศรษฐา เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล มาหารือ “หยั่งเสียง” กันล่วงหน้าเมื่อวันที่ 22 เม.ย.นัยว่าเพื่อสร้างความมมั่นใจว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะ “กอดคอ” กันไปด้วยกัน 


 อย่างไรก็ดี การเดินหน้าผลักดันโครงการแจกเงินหมื่น ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของพรรคเพื่อไทย ยังมีขึ้นควบคู่ไปกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจ นั่นคือการปรับครม. เตรียมเปิดฉากใหม่ไปสู่ “เศรษฐา 2”  !


 การขยับ ปรับเปลี่ยนเก้าอี้รัฐมนตรี ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ในห้วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าเกิดแรงกระเพื่อม ลุกลามไปถึง “โควตา” ของพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ตามมาชัดเจน ทั้งกรณีที่มีข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเก้าอี้ “ประธานสภาฯ” ที่มี “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” แกนนำพรรคประชาชาตินั่งทำหน้าที่อยู่ เพื่อเปิดทางให้ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” รมว.สาธารณสุขหรือ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ที่มีข่าวว่าอาจต้องหลุดเก้าอี้ แล้วไปนั่งในตำแหน่งประธานสภาฯ แทน ที่สุดแล้ว พรรคประชาชาติ ส่งสัญญาณแรงชัด ว่า “ไม่ยอม” 


 เช่นเดียวกันกับในรายของพรรคภูมิใจไทยเองที่มี 8 รัฐมนตรี นั่งประจำที่ ยังเจอข่าวลือว่า พรรคเพื่อไทย ต้องการเก้าอี้ “รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย” ไปถึงความต้องการแลกกระทรวง  แต่ที่สุดแล้ว ดูเหมือนว่า “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องเล่นบทแข็ง ไม่รับข้อเสนอใดๆ ย้ำแล้วย้ำอีก ว่ารัฐมนตรีทั้ง 8คนในโควตาของพรรค จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง 


 การเดินหน้าผลักดันโครงการแจกเงินหมื่น ของพรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องได้แรงหนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล และในขณะเดียวกัน การปรับครม.รอบนี้ จะจบลงอย่างไร ที่ตรงไหน ว่าที่สุดแล้ว พรรคเพื่อไทยจะไม่รุกเข้าแดน กินโควตา รัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อชัดเจนแล้วว่า แรงหนุนที่ได้รับจากมติที่ประชุมครม. ต่อดิจิทัลวอลเล็ต นั้นเหนียวแน่นมากพออย่างที่เห็น !