การเลือกตั้งซ่อมสส.ระยอง เขต 3 เมื่อวันที่ 10 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ชัดเจนว่า โย  พงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล เป็นฝ่าย คว้าชัย ไปครอง  ชนิดขาดลอย เอาชนะ หมอบัญญัติ นพ.บัญญัติ  เจตนจันทร์  ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ต้องลุ้น ด้วยคะแนนของพงศธร ทิ้งห่างนับหมื่นแต้ม ! 

 การเลือกตั้งซ่อมระยอง เขต 3 รอบนี้ ถือเป็นการ แก้มือ ทั้งจากพรรคก้าวไกล ที่แม้รอบที่แล้ว ไอซ์ ระยอง นครชัย ขุนณรงค์  ผู้สมัครของพรรคก้าวไกล ชนะเลือกตั้ง แต่สุดท้ายต้องลาออก เนื่องจากพบว่าเคยต้องคดีถูกจำคุกถือว่าขาดคุณสมบัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง  


 แต่เมื่อการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มีขึ้นในจังหวะที่ พรรคก้าวไกล กลายเป็น ฝ่ายค้าน การจัดตั้งรัฐบาลผสม 11 พรรคไม่มีพรรคก้าวไกล อยู่ในสมการทางการเมือง พรรคเพื่อไทยก้าวขึ้นมาผงาดในฐานะ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และยังได้เก้าอี้ นายกฯคนที่ 30 ไปครอง 


 ทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า กระแสของพรรคก้าวไกล จะถูก ตีตก เมื่อทิศทางการเมืองเปลี่ยนหรือไม่  หรือจะเป็นด้วยความเป็นไปได้ที่พรรคก้าวไกล จะถูกล้อมกรอบจาก พรรคร่วมรัฐบาล ที่วันนี้คือรัฐบาลผสม ทั้งขั้วพรรคเพื่อไทย กับพรรคที่เคยอยู่ในปีก 2ลุงมาก่อน 


 แต่เมื่อชัยชนะตกเป็นของผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล จึงทำให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความมั่นใจหลังรู้ผลเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ย.ว่านี่คือผลพวงจากการที่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการตั้งรัฐบาลผสม  จึงยังทำให้กระแสเทมาหนุนพรรคก้าวไกล มากขึ้นจากเดิม โดยรอบนี้ โย พงศธร  ทำได้ถึง 39,296 คะแนน

 โดยจาก เดิมไอซ์ ระยอง เคยทำแต้มเอาไว้ได้ 29,034 คะแนน เท่ากับว่าพรรคก้าวไกล ได้คะแนนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

 อย่างไรก็หากมองอีกทางหนึ่ง สำหรับพรรคการเมืองอื่น ๆ ย่อมประเมินได้ว่า ชัยชนะของพรรคก้าวไกลที่ยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเช่นนี้ จะกลายเป็น อุปสรรค ในการต่อสู้ทางการเมืองในสนามใหญ่รอบหน้า ตามมาหรือไม่  เพราะเท่ากับว่า สถานการณ์ของพรรคก้าวไกล อาจอยู่ในภาวะที่เรียกว่ายิ่งตี ยิ่งดัง และนี่อาจกลายเป็น โจทย์การเมืองใหญ่ที่ต้องหาทางแก้ไขปิดจุดอ่อน !