แสงไทย เค้าภูไทย
เลือกตั้ง 66 นี้มีตัวแปรที่จะกำหนดว่าใครจะได้เป็นรัฐบาลหลายตัว หลายมิติ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือส.ว.กับศิษย์เก่า พท.
เลือกตั้งปี 62 สมาชิกวุฒิสภาเป็นตัวกำหนด แม้พรรคพลังประชารัฐที่ชูพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้จำนวนส.ส.มาเป็นอันดับ 3 แต่ก็ ได้เสียงจาก ส.ว.ที่ คสช.ตั้งมากับมือ 250 เสียงฟรีๆโหวตให้
บิ๊กตู่จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี สืบทอดอำนาจมาจนถึงวันนี้
ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นอีกไหม ?
มองย้อนหลังดูบทบาทของ ส.ว.ในสภาที่ผ่านมา แล้ว น่าจะเป็นไปได้ยาก
ในการโหวตร่วม เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง เสียงส.ว.ที่สนับสนุนรัฐบาล หายไปกว่า 40 เสียง
การโหวตเลือกนายกฯหนนี้ จะไม่เหมือนครั้งก่อนที่พปชร.หนุนประยุทธ์เต็มตัว และพรรคที่ร่วมรัฐบาลปัจจุบันนี้มีส.ส.เต็มพิกัดและส.ว.เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีใครแตกแถว
แต่ครั้งนี้ หลายพรรค อดีต ส.ส.และ ส.ส.พากันตีจาก โดยเฉพาะประชาธิปัตย์นั้นออกกันไปแบบเลือดไหลไม่หยุด
นอกจากนี้ บางพรรคหรือบางพวกที่เป็นศิษย์เก่าเพื่อไทย ก็ย้ายกลับรังเดิม
หรือถ้าไม่กลับเพื่อไทย แต่ก็ยังส่งใจมาถึง อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นต้น ซึ่งเลือกตั้งหนนี้ เขาจะเป็นคีย์แมนตัวสำคัญที่สุด
วันนี้เขาย้ายกลับ พปชร.มาอยู่กับ “นายป้อม” ดั้งเดิม ปิดประตู พปชร.ชูลุงตู่เป็นนายกฯโดยสิ้นเชิง
เหตุลุงตู่สร้างรอยแค้นไว้ชนิดไม่เหยียบเงา ไม่เผาผี
อีกกลุ่มที่มีแค้นฝังลึกกับลุงตู่ก็คือ “สามกุมาร” เฒ่าที่ นำโดยดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ระเห็จจาก พปชร. ไป
แต่พอลุงตู่ไม่อยู่ พวกเขาก็กลับมา กลุ่มนี้ทุนหนา อย่ามองข้าม
สำหรับ ส.ว.ที่หวังนักหวังหนาว่าจะมากลบคะแนนแลนด์สไลด์นั้น ครั้งนี้ต่างจากครั้งโน้นที่ 250 เสียงโหวตให้ลุงตู่อย่างพร้อมเพรียงไม่ตกไม่หล่นเลยสักเสียง
ถือว่าโหวตทดแทนบุญคุณที่แต่งตั้งพวกตนมาเป็นวุฒิสมาชิกผู้ มีเงินเดือนกินยามชราเดือนละกว่าแสน
แต่ครั้งนี้ไม่มีเงื่อนไขโหวตทอแทนบุญคุณ ถือว่าครั้งนั้นได้ใช้หนี้บุญคุณกันไปแล้ว ไม่ติดค้างกันต่อไป
ครั้งนี้ จะเป็นฟรีโหวต เป็นตัวของตัวเอง
จะมีก็แต่ทหารเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ตั้งเข้าไปเพื่อตอบแทนที่ช่วยสนับสนุนการยึดอำนาจเท่านั้น ที่จะยังจงรักภักดีไปจนตาย
เชื่อว่า หลังการเลือกตั้ง เสียงของ ส.ว.จะแตกเป็น 3 กลุ่ม คือเอาประยุทธ์ ไม่เอาประยุทธ์ และอยู่ตรงกลาง
และที่แน่นอน กลุ่มไม่เอาประยุทธ์ย้ายไปเทให้ฝ่ายตรงกันข้าม
งานนี้ จึงเป็นงานที่คีย์แมนจะต้องใช้ฝีมือขั้นเทพดำเนินการ
สำหรับส.ส.ที่กำลังจะเป็นอดีต ส.ส.ตามวาระในอีกไม่กี่วันข้างหน้านั้น อย่าประมาทเป็นอันขาด เพราะเด็กใหม่ คนหน้าใหม่เข้าสนามมาก
กระแสนิยมคนรุ่นใหม่ในกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งใหม่มีมากพอจะล้มนักการเมืองรุ่นเก่าที่อาศัยบารมีพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนและผู้มีบารมีในท้องถิ่นได้
ดูคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทำแลนด์สไลด์เป็นตัวอย่าง
การที่เพื่อไทยให้แพทองธาร ชินวัตร ออกมาเดินสายหาเสียง ที่มีผู้ค่อนแคะว่าละอ่อนทางการเมืองเสียเหลือเกิน ไม่น่าเลือกมาเป็นนายกฯนั้น
เหตุผลที่แพทองธารออกมาเดินหาเสียงนั้น ก็เพื่อผลทางด้านจิตวิทยา
ด้านหนึ่งคือตอกย้ำให้รำลึกถึงความเป็นเพื่อไทยขนานแท้ที่มีทักษิณและยิ่งลักษณ์เป็นภาพฝังจำ
อีกด้านหนึ่ง เป็นการหาพวกหรือเข้าพวก ไปพูดที่ไหน มีกิจกรรมอันใด สื่อมวลชน สื่อโซเชียลมักไม่เรียกชื่อ จริง เรียกแต่ชื่ออุ๊งอิ๊ง ชื่อเล่น
เด็กรุ่นใหม่ทุกคนล้วนมีชื่อเล่น ก็เห็นว่าเป็นพวกเดียวกัน
ไม่เลือกพวกเดียวกันแล้วจะให้ไปเลือกตาแก่คนไหนเล่า ?
ส่วนตัวคนที่ชูเป็นนายกฯนั้น เขาเปิดตัวแล้ว เดินคู่กับอุ๊งอิ๊งนั่นแหละ
นี่คือภาพทัศน์การเมืองวันนี้ ที่ดูเข้าที่ เข้าทางลงตัวไปกว่าครึ่งค่อน
รอแต่ว่า เมื่อใด ใครจะได้เบอร์อะไรสีเสื้ออะไรเท่านั้น