ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ ภาพผู้นำศาสนา นักเรียน และกลุ่มพลังมวลชน ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เดินทางมารวมตัวกันเพื่อร่วมประกอบพิธีละหมาดฮายัตขอพรพระเจ้าเพื่อให้สันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่ชายแดนใต้อีกครั้ง พร้อมกับการเดินรณรงค์ต่อต้านเหตุการณ์ความรุนแรง หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดด้วยวิธี “จักรยานยนต์บอมบ์” บริเวณพื้นที่หน้าโรงเรียนบ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2559 สะท้อนเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ห้วงเวลาที่ผ่านมา หลังจากได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงต่อเนื่องหลายครั้ง และผู้ตกเป็น “เหยื่อ” ล้วนเป็นประชาชนคนบริสุทธิ์มากขึ้น หาใช่คู่ขัดแย้ง ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับเหตุรุนแรงที่ “บ้านตาบา-ตากใบ” ล่าสุด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 5 ราย ที่สำคัญคือ หนึ่งในจำนวนผู้ได้รับผลกระทบเป็นเพียงเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ที่เสียชีวิตพร้อมกับผู้เป็นบิดา กระทั่งสร้างความสะเทือนใจต่อประชาชนทั่วประเทศที่ได้ติดตามสถานการณ์เป็นอย่างมาก เสียงสะท้อนจากมวลชนที่ได้ติดตามสถานการณ์ หรือผู้มีบทบาทในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทั้ง นักวิชาการ ตัวแทนภาคประชาสังคม ภาคประชาชน องค์กร หน่วยงาน ฯลฯ ปรากฏและถูกเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง และล้วนมี “นัยสำคัญ” ระหว่างบรรทัดที่น่าสนใจยิ่ง ผู้เขียนขออนุญาตนำข้อความเหล่านี้บางส่วนมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนวงกว้าง เพราะย่อมเป็นคำถามต่อเนื่องว่า จะส่งผลอย่างไรต่อไปบ้างต่อการเคลื่อนไหวของฝ่ายต่างๆ ในพื้นที่ นับจากนี้ “จากเหตุการณ์จักรยานบอมบ์เช้านี้ จนส่งผลให้มีการเสียชีวิต 3 คน และหนึ่งในนั้นเป็นเด็ก ข้าพเจ้าคิดว่าสังคมไทย อาจต้องจริงจังกับความรุนแรงที่ต่อเนื่องใน 3 จชต. มากขึ้น เพราะหากผู้กระทำการความรุนแรงให้คุณค่ากับความเชื่อ ไม่ว่าในนามของศาสนาหรือดินแดน มากกว่า "ชีวิต" ของเพื่อนมนุษย์ เราทุกๆ คนสามารถเป็นเหยื่อความรุนแรงได้” Ngamsuk Rattanasatain ภาพการสูญเสียวันนี้มันเศร้านะ ไม่มีใครอดทนได้กับการที่เด็กต้องมาเสียชีวิตจากลูกหลงของเหตุการณ์ เฉกเช่นเดียวกันกับที่ไม่มีใครรับได้ที่เด็กต้องมารับเคราะห์แทนในหลายๆ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ในความขัดแย้งที่หลายคนไม่ยอมรับว่ามันมีความขัดแย้ง ในสมรภูมิการรบที่หลายคนไม่อาจยอมรับว่าไร้กฎเกณฑ์ มันคงถึงเวลาที่ต้องยอมรับความจริงว่า ความขัดแย้งมีอยู่และกำลังเดินทางไปสู่ความซับซ้อนที่มากขึ้น และคงถึงเวลาที่ต้องเรียกร้องให้การปะทะของคู่กรณีอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์อะไรบางอย่าง หากการพูดคุยยังคงไม่ใช่ทางออกในสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างน้อยที่สุด เด็กและคนที่บริสุทธิ์ไม่ควรจะเป็นเหยื่อของการต่อสู้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม” Hadi Wijaya “ไม่ว่าพวกคุณจะระบุตัวเองว่านับถือศาสนาใด และไม่ว่าพวกคุณจะใช้เหตุผลอะไรรองรับในการฆ่าผู้บริสุทธิ์ ขอบอกว่า.. คุณคือไอ้คนขี้ขลาด และคุณพ่ายแพ้แล้ว... และเหยื่อเหล่านั้นจะถามคุณในวันพิพากษา เหมือนอัลกุรอาน (81:8-9) ที่พูดถึง "และเมื่อทารกหญิงที่ถูกฝังทั้งเป็นทวงถามว่า ด้วยความผิดอันใดพวกเขาจึงต้องถูกฆ่า"” Suchart Setthamalinee “ขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อพลเรือน โดยเฉพาะผู้อ่อนแอ และขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับความเสียหายครับ สูญเสียลูกแบบนี้ ใจหายเลย... วันนี้น้ำตาไม่ทันจะแห้ง นึกถึงความรู้สึกของพ่อที่ไม่สามารถปกป้องลูก...ได้ ขอให้วิญญาณของพ่อและลูกอยู่ในความเมตตากรุณาของอัลลอฮฺ...” Hara Shintaro “การเรียกร้องให้ขบวนการฯ เคารพกฎหมายสงครามหรือกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ในแง่หนึ่งคือการกดดันขบวนการฯ แต่ในอีกแง่หนึ่งเป็นการกดดันให้รัฐไทยยกระดับปัญหาความไม่สงบที่ชายแดนใต้ ซึ่งรัฐพยายามอย่างยิ่งยวดให้เป็นปัญหาความขัดแย้งกันภายในประเทศมาโดยตลอดนั้น ให้เป็นปัญหาสงครามทางชนชาติที่คาบเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ และท้ายที่สุดตัวแปรสำคัญของทิศทางการเข้ามาเกี่ยวข้องหรือแทรกแซงของระหว่างประเทศ ก็ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ในทางการเมืองและเศรษฐกิจที่พวกเขาจะได้รับ เฉกเช่นกรณีของติมอร์-ติมอร์หรือไม่” Tuandaniel Tuanbaerae “เหตุการณ์ที่ตาบา ผมไม่มีข้อสงสัยสักนิดเลยว่าที่เกิดขึ้นนี้เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง และผมไม่ชี้นิ้วไปยังฝ่ายใดๆ ในการแก้ปัญหา ผมขอเรียกร้องด้วยความจริงใจจากฝ่ายที่มีอำนาจของไทย พยายามอย่าไปให้ทหารหรือตำรวจหรือกองกำลังที่มีชื่อเรียกว่าอะไรก็ตาม ไปประจำการยังสถานที่เช่นโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด หลังจากนั้นเราจะได้ร่วมกันเฝ้าดูว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเหยื่อและขอดุอาอ์ให้เอกองค์อัลเลาะห์ให้จัดการการงานด้วยดีเถิด” Kasturi Mahkota “..เราเองต้องมีสติเหมือนกัน รู้สึกร้อนหนาว เศร้าสลด แต่ก็ต้องคงจิตให้มั่น และสงบพอที่จะไม่เพลินไปกับ ความเจ็บ ความเศร้า ความแค้น ที่นานเกินไป และคิดกระทำบางอย่างที่น่าจะทำให้ดีขึ้น” ลม้าย มานะการ แถลงการณ์สภานักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านตาบา จังหวัดนราธิวาส (พื้นที่สาธารณะ) ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มและองค์กรร่วมกันรณรงค์ ต่อต้าน ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ด้วยอาวุธสงคราม และการกระทำที่ทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และป่าเถื่อน ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและร่างกายของประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้ว ยังเกิดความเศร้าสลดใจแก่ผู้ที่พบเห็น และต่อสังคมโดยรวม “ขอวิงวอนต่อผู้ที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ดังต่อไปนี้ 1.ขอให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางสู้ 2.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางป้องกันปกป้องดูแลผู้บริสุทธิ์ 3.ขอให้เจ้าหน้าที่นำผู้กระทำผิดมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้โดยเร็ว 4.ขอให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย ทุกฝ่ายควรเฝ้าระวังและห้ามละเมิดโดยเด็ดขาด 5.ขอให้ทุกฝ่ายเคารพพื้นที่ที่มีเด็กและเยาวชน ในทุกพื้นที่ไม่เพียงแค่พื้นที่สาธารณะเท่านั้น” พร้อมกับได้ทิ้งท้ายไว้ในแถลงการณ์ว่า เชื่อมั่นว่าสันติภาพที่ยั่งยืนไม่อาจเกิดขึ้นได้หากผู้บริสุทธิ์ยังคงถูกคุกคาม และสังคมยังไร้ซึ่งความมั่นคงปลอดภัย ยิ่งผ่านยิ่งเวียนวน ยิ่งรุนแรง หลายคนวิงวอนว่า ได้โปรดเถิด “ขอพื้นที่ปลอดภัย, ให้เด็กได้วิ่งเล่น” บ้าง